
สิวอักเสบ คืออะไร ?
สิวอักเสบ (Inflammatory acne) คือสิวที่มีตุ่มนูนเป็นก้อนแดง มีความระคายเคือง และมีหลายระดับความรุนแรงตั้งแต่สิวอักเสบตุ่มแดงจากสิวอุดตัน ไปจนถึงสิวหัวช้าง

สาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ
สิวอักเสบ (Inflammatory Acne) เป็นปัญหาผิวที่มีต้นกำเนิดจากสิวหลายชนิด โดยเฉพาะสิวอุดตัน (Comedones) ซึ่งเกิดจากการสะสมของสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินบนผิวหนัง เมื่อสิวอุดตันไม่หายไปและถูกกระตุ้นโดยสิ่งแปลกปลอม โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย C. acnes ที่เข้าสู่รูขุมขน จะเกิดกระบวนการอักเสบ นอกจากนี้ C. acnes ยังหลั่ง Protease และ Cytokines ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบบริเวณสิว ทำให้เกิดอาการบวมแดงและอาการอักเสบตามที่เราเห็นนั่นเอง
นอกจากนี้ สิวอักเสบ ยังสามารถเกิดจากการหลั่งฮอร์โมนที่ไม่สมดุล พันธุกรรม ผิวแพ้ง่าย มลภาวะต่าง ๆ อาหารการกิน และการใช้ชีวิตอีกด้วย

สิวอักเสบมีกี่ประเภท
สิวอักเสบสามารถแบ่งได้ตามประเภท และความรุนแรงของสิว ดังนี้
- สิวตุ่มนูนแดง (Papule) : เป็นสิวอักเสบในระยะแรกที่เปลี่ยนมาจากสิวอุดตัน
- สิวหัวหนอง (Pustule) : เป็นสิวที่มีอาการอักเสบมากกว่าสิวตุ่มนูนแดง ในตุ่มจะมีหนองสีเหลือง
- สิวไต (Nodule) : เป็นตุ่มแดงและมีขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง รู้สึกได้ถึงก้อนไตบนผิวหนัง มีอาการเจ็บปวด
- สิวซีสต์ (Acne Cyst) : เป็นตุ่มที่มีถุงภายในและของเหลวหนืดสีเหลือง ไม่แดง ไม่ปวด
- สิวหัวช้าง (Acne Conglobata) : เป็นตุ่มใหญ่ บูม แดง และมีอาการเจ็บปวดมาก หากได้รับการรักษาผิดวิธีอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อและสิวลุกลามมากขึ้น

สิวอักเสบมักเกิดขึ้นบริเวณใด
สิวอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วทั้งร่างกาย แต่บริเวณที่มักพบสิวอักเสบได้บ่อย ๆ มีดังนี้
- สิวที่คาง : เนื่องจากบริเวณคางมีจำนวนต่อมไขมันเยอะกว่าบริเวณอื่น จึงทำให้สิวขึ้นง่ายในบริเวณนี้
- สิวที่หน้าผาก : เส้นผมที่ปรกหน้าที่รวมสิ่งสกปรก และคราบเหงื่อไว้ มีผลต่อการเกิดสิวที่หน้าผาก
- สิวที่จมูก : เนื่องจากจมูกเป็นอวัยวะที่ยื่นออกมา ทำให้สัมผัสเสียดสีกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น แมสก์ หมอน เป็นต้น
- สิวที่แก้ม : แก้มเป็นบริเวณที่ถูกสัมผัสบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นมือหรือแมสก์ ทำให้สิ่งสกปรกมาสะสมบนใบหน้าได้

วิธีรักษาสิวอักเสบมีอะไรบ้าง
การรักษาสิวอักเสบสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการดูแลด้วยตนเองที่บ้านและการปรึกษาแพทย์ผิวหนัง วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวและการสาเหตุต้นตอผิวของแต่ละบุคคล
1. รักษาสิวอักเสบด้วยตัวเอง
สิวอักเสบรักษายังไง? สำหรับสิวอักเสบที่ไม่รุนแรงมาก สามารถเริ่มต้นด้วยการดูแลรักษาด้วยตนเองที่บ้านได้ เช่น
- ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
- การใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid หรือ Benzoyl Peroxide เป็นต้น
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- จัดการกับความเครียด
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยลดการเกิดสิวอักเสบได้แล้ว
2. รักษาสิวอักเสบโดยการปรึกษาแพทย์
หากสิวอักเสบมีความรุนแรงหรือรักษาด้วยตนเองไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง แพทย์อาจแนะนำการรักษาหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยา หรือการรักษาด้วยเลเซอร์ การพบแพทย์จะช่วยให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความรุนแรงของสิวแต่ละบุคคลมากที่สุด
โปรแกรมรักษาสิวที่ต้นตอ Acne Resolve / โปรแกรมรักษาสิว ลดการทายารักษาสิว Acne Resize ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic)
ใครที่กำลังเผชิญปัญหาสิวเห่อ รักษาสิวอักเสบเท่าไรก็ไม่หาย ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic) มีโปรแกรมรักษาสิว เริ่มตั้งแต่การหาสาเหตุของปัญหาสิว โดยใช้วิธีเก็บตัวอย่างสิวมาส่องกล้องจุลทรรศน์ เพื่อให้ทราบถึงประเภทของสิว และการเจาะเลือดเพื่อทดสอบภูมิแพ้แฝง จากนั้นก็จะเริ่มรักษาด้วยโปรแกรม AR ซึ่งจะมี 2 โปรแกรมตามสภาพผิวค่ะ

Acne Resolve โปรแกรมรักษาสิวที่ต้นตอ
Acne Resolve เป็นโปรแกรมรักษาสิวที่จะมีการยิงคลื่นพลังงานชนิดเดียวกับเครื่อง Monopolar RF เข้าไปที่ต่อมไขมันที่โผล่ขึ้นมา เช่น สิวอักเสบ สิวอุดตันให้ยุบลงไป สามารถฆ่าเชื้อที่ทำให้เกิดสิว และลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำที่จุดเดิมค่ะ

Acne Resize โปรแกรมรักษาสิว ลดการทานยารักษาสิว
Acne Resize เป็นโปรแกรมรักษาสิวที่จะลดต่อมไขมัน ลดการเกิดสิว ทำให้ผิวไม่ตกสะเก็ดและไม่ทำให้หน้าบาง นอกจากนี้ยังสามารถลดการรับประทานยาและลดผลข้างเคียงจากการรับประทานยาด้วยค่ะ

โปรแกรมลดรอยสิว สร้างเซลล์ผิวใหม่ DAS
ส่วนใครที่สิวหายแล้ว แต่ยังคงทิ้งรอยไว้ให้รบกวนใจ ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic) เรามีโปรแกรมลดรอยสิว สร้างเซลล์ผิวใหม่ DAS ที่จะช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพด้วยเทคโนโลยีการสกัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดจากเกล็ดเลือดคุณภาพสูง (Platelets growth factor) ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการแพ้ เนื่องจากใช้เลือดของคนไข้ในการรักษาค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
1. สิวอักเสบหายเองได้ไหม
สิวอักเสบอาจหายเองได้ในบางกรณี โดยเฉพาะหากเป็นสิวที่ไม่รุนแรงมาก อย่างไรก็ตาม การหายเองมักใช้เวลานานและอาจทิ้งรอยแผลเป็นได้ การดูแลผิวที่เหมาะสมและการรักษาตั้งแต่เริ่มแรกจะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นและลดโอกาสการเกิดแผลเป็น แต่ถ้ารักษาสิวอักเสบไม่หาย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์นะคะ
2. สิวอักเสบกี่วันถึงจะหาย
ระยะเวลาในการหายของสิวอักเสบแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยทั่วไปอาจใช้เวลาประมาณ 3-7 วันสำหรับสิวที่ไม่รุนแรง และอาจนานถึง 2-3 สัปดาห์สำหรับสิวที่มีขนาดใหญ่หรือรุนแรงค่ะ
3. สิวอักเสบบีบได้ไหม
ไม่แนะนำให้บีบสิวอักเสบ เนื่องจากการบีบอาจทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น เพิ่มโอกาสการติดเชื้อ และอาจทำให้เกิดแผลเป็นถาวรได้ แทนที่จะบีบ ควรใช้ยาทาเฉพาะที่เพื่อลดการอักเสบมากกว่า หรือเลือกที่จะเข้าพบแพทย์หากมีอาการรุนแรงค่ะ
4. สิวอักเสบขึ้นไม่หยุดทำไงดี
- ปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลผิว ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน
- ดูแลสุขอนามัย เช่น ล้างหน้าให้สะอาด
- ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน ลดอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง
- จัดการความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ
หากทำตามวิธีเหล่านี้แล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รางวัล ArokaGO Star ระดับ 5 ดาว ประจำปี 2567
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว
เจาะลึก 3 โปรแกรมการรักษาสิวจากต้นตอ ปี 2025
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว
กดสิวอย่างปลอดภัย ต้อง Sterile
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว