สิวอุดตันคืออะไร
สิวอุดตัน (Comedones) เป็นสิวที่รูขุมขนอุดตันด้วยไขมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และแบคทีเรีย ทำให้เกิดเป็นตุ่มนูนออกมาจากผิวหนัง สิวอุดตันสามารถเกิดได้ทั้งแบบไม่มีหัว หัวปิด (สิวหัวขาว) และหัวเปิด (สิวหัวดำ) การเกิดสิวอุดตันเป็นขั้นตอนแรกของการเกิดสิวชนิดอื่น ๆ ได้ เช่น สิวอักเสบ หรือสิวหนอง
สิวอุดตันเกิดจากอะไร
สิวอุดตันเกิดจากอะไร? จริง ๆ แล้วสิวอุดตันเกิดได้จากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือการผลิตน้ำมันบนผิวหนังมากเกินไป (sebum) ร่วมกับการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ที่ควรจะผลัดตัวและหลุดออกไปจากรูขุมขน แต่กลับทำให้รูขุมขนอุดตัน เมื่อซีบัมไม่สามารถออกจากรูขุมขน ก็จะทำให้เกิดเป็น Microcomedones ที่รวมตัวกับแบคทีเรียในรูขุมขน ส่งผลให้ Microcomedones ขยายใหญ่ขึ้นและเกิดเป็นสิวอุดตันในที่สุด
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เกิดสิวอุดตัน เช่น
- ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น
- พันธุกรรม
- ความเครียด
- การใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน
- การล้างหน้าไม่สะอาด
- สภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะสูง
- การรับประทานยา และอาหารบางชนิด เป็นต้น
ประเภทของสิวอุดตัน
สิวอุดตันแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ แต่ละประเภทมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
1. สิวอุดตันหัวขาว หรือ สิวอุดตันหัวปิด
สิวอุดตันหัวปิด หรือสิวอุดตันหัวขาว (Closed Comedones) เป็นสิวอุดตันที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ สีขาว เกิดจากการที่รูขุมขนอุดตัน โดยที่ปากรูขุมขนปิดสนิท สิวประเภทนี้มักไม่อักเสบและไม่เจ็บ แต่อาจกลายเป็นสิวอักเสบได้หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม
2. สิวหัวดำ หรือ สิวอุดตันหัวเปิด
สิวหัวดำ หรือสิวอุดตันหัวเปิด (Open Comedone) มีลักษณะเป็นจุดสีดำเล็ก ๆ บนผิวหนัง เกิดจากรูขุมขนที่อุดตันแต่ปากรูขุมขนเปิด ทำให้น้ำมันและเซลล์ผิวที่สะสมอยู่สัมผัสกับอากาศและเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันกับเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง หัวสิวจึงมีสีดำ การรักษาสิวหัวดำทำได้โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA หรือ BHA เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตัน
3. สิวอุดตันไม่มีหัว
สิวไม่มีหัว หรือ (Blind Pimples) เป็นสิวอุดตันที่อยู่ลึกใต้ผิวหนัง ไม่มีจุดสีขาวหรือดำให้เห็น มักมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ สีเนื้อหรือสีขาวอมชมพู สิวประเภทนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากฮอร์โมนแอนโดรเจนในกลุ่มวัยรุ่น สามารถหายเองได้ แต่ก็สามารถพัฒนากลายเป็นสิวประเภทอื่นที่ยากต่อการรักษาได้เช่นกัน
สิวอุดตันขึ้นบริเวณไหนได้บ้าง
สิวอุดตันสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายบริเวณของร่างกาย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีต่อมไขมันมาก ซึ่งมักพบได้บ่อยในบริเวณต่อไปนี้
1. สิวอุดตันที่แก้ม
สิวอุดตันที่แก้มเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวมัน สาเหตุหลักมาจากการผลิตน้ำมันมากเกินไปและการสะสมของสิ่งสกปรกบนใบหน้า นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่นการใช้โทรศัพท์มือถือ หมอนที่ไม่สะอาด หรือการใช้มือแตะหน้าบ่อย ๆ ก็สามารถทำให้เกิดสิวอุดตันที่แก้มได้
2. สิวอุดตันที่คาง
คางเป็นอีกบริเวณหนึ่งที่มีต่อมไขมันจำนวนมาก จึงทำให้เกิดสิวอุดตันบ่อย สิวอุดตันที่คางมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในผู้หญิงช่วงก่อนมีประจำเดือน นอกจากนี้ การใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน หรือการโกนหนวดที่ไม่ถูกวิธีในผู้ชายก็สามารถทำให้เกิดสิวที่คางได้เช่นกัน
3. สิวอุดตันที่หลัง
สิวอุดตันที่หลัง มักเกิดจากการอับชื้นและการระคายเคืองจากเสื้อผ้า โดยเฉพาะหลังจากออกกำลังกาย หรือการใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีส่วนผสมของน้ำมันก็สามารถทำให้เกิดสิวอุดตันที่หลังได้
4. สิวอุดตันที่คอ
สิวอุดตันที่คอมักเกิดจากการระคายเคืองจากเสื้อผ้า ปกเสื้อ หรือเครื่องประดับ และการใช้น้ำหอมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันก็สามารถทำให้เกิดสิวอุดตันที่คอได้
5. สิวอุดตันที่หน้าผาก
สิวที่หน้าผากมักเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนผสมของน้ำมัน การสวมหมวกที่ทำให้เกิดการอับชื้น หรือการปล่อยผมปรกหน้า ความเครียดและฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงก็มีผลต่อการเกิดสิวบริเวณนี้ด้วย
วิธีป้องกันการเกิดสิวอุดตัน
- ทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน (non-comedogenic)
- สครับผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- รักษาความสะอาดของสิ่งที่สัมผัสใบหน้า เช่น หมอน โทรศัพท์ เปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวัน
- หลีกเลี่ยงการแตะหน้าโดยไม่จำเป็น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- ลดความเครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
วิธีรักษาสิวอุดตัน
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinoids เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิว
- พบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้ยาทาหรือยารับประทาน
- ทำทรีตเมนต์เฉพาะทาง เช่น การเลเซอร์สิว เป็นต้น
รักษาสิวอุดตันที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic)
ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic) เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญในการรักษาปัญหาผิวหนัง โดยเฉพาะการรักษาสิว ด้วยโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อคนไข้แต่ละบุคคล ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินสภาพผิวและออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดก่อน จากนั้นจะดูแลรักษาผิวให้แบบองค์รวมเพื่อป้องกันการเกิดสิวซ้ำ ฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาแข็งแรงเหมือนได้ผิวใหม่ค่ะ
โปรแกรมรักษาสิว Acne Resolve และ Acne Resize
โปรแกรมรักษาสิว Acne Resolve และ Acne Resize ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic) เป็นการแก้ปัญหาสิวตั้งแต่หาสาเหตุของการเกิดสิว วิเคราะห์สภาพผิวอย่างละเอียด รวมถึงตรวจหาภูมิแพ้ที่อาจเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว จากนั้นจะใช้เทคโนโลยีในการรักษา ดูแลผิวที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล ซึ่งจะมี 2 เครื่องมือที่ช่วยลดสิวให้แต่ละสภาพปัญหาผิวค่ะ
โปรแกรมรักษาสิวที่ต้นตอ Acne Resolve
โปรแกรม Acne Resolve เป็นนวัตกรรมการรักษาสิวที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นพลังงานชนิดเดียวกับเครื่อง Monopolar RF ในการรักษา วิธีการนี้จะใช้หัวเข็มขนาดเล็กพิเศษยิงคลื่นพลังงานเข้าไปในผิวหนัง เพื่อสลายและทำให้ต่อมไขมันฝ่อลง ส่งผลให้สามารถจัดการกับสิวอักเสบและสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสิวจะยุบลงอย่างเห็นได้ชัด
ข้อดีของโปรแกรมนี้คือ ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือตกสะเก็ด และยังช่วยลดปริมาณและระยะเวลาในการรับประทานยารักษาสิวอีกด้วย นอกจากนี้ โปรแกรม Acne Resolve ยังช่วยฆ่าเชื้อต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ซึ่งเป็นการป้องกันการเกิดสิวในระยะยาวและลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำในบริเวณเดิมค่ะ
โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาสิวอย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิวฮอร์โมน สิวที่คางและกรอบหน้า สิวไตอักเสบเรื้อรัง หรือผู้ที่มีสิวขึ้นบริเวณเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน Acne Resolve จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนไข้ที่ต้องการการรักษาสิวที่ให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพค่ะ
โปรแกรมรักษาสิว ลดการทายารักษาสิว Acne Resize
โปรแกรม Acne Resize เป็นนวัตกรรมการรักษาสิวที่ลดการพึ่งพายาทาและยารับประทาน โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษาและจัดการต่อมไขมันที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ลดขนาดต่อมไขมัน ฆ่าเชื้อ P.ance รวมถึงทำให้ต่อมไข่มันผลิตน้ำมันลดลง
กลไกการทำงานของ Acne Resize ไม่เพียงแต่รักษาสิวที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่ด้วย โดยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ส่งผลให้ลดการเกิดใหม่ของสิวอักเสบ สิวอุดตัน และสิวหัวหนองค่ะ
ข้อดีที่สำคัญของโปรแกรมนี้คือ การใช้คลื่นพลังงานที่ปลอดภัยต่อผิว ไม่ทำให้ผิวไหม้ ไม่ทำให้ผิวตกสะเก็ด และไม่ทำให้หน้าบางลง ซึ่งเป็นปัญหาที่มักพบในการรักษาสิวด้วยวิธีอื่น ๆ Acne Resize จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนไข้ที่ต้องการการรักษาสิวที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และลดการพึ่งพายาค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
1. บีบสิวอุดตันได้ไหม
ไม่แนะนำให้บีบสิวอุดตัน เนื่องจากอาจทำให้เกิดการอักเสบ แผลเป็น หรือการติดเชื้อได้ แทนที่จะบีบ ควรใช้วิธีการรักษาอื่น ๆ เช่น ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกหรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนและสม่ำเสมอ หรือพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
2. สิวอุดตันหายเองได้ไหม
สิวอุดตันสามารถหายเองได้ในบางกรณี แต่อาจใช้เวลานานและไม่แน่นอน ปัจจัยที่มีผลต่อการหายของสิวอุดตัน ได้แก่ ระดับฮอร์โมนในร่างกาย สุขอนามัย การดูแลผิวหน้า รวมถึงอาหารและไลฟ์สไตล์ค่ะ
3. นานไหมกว่าสิวอุดตันจะหาย
ระยะเวลาในการหายของสิวอุดตันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วิธีการรักษา ความรุนแรงของสิว การดูแลผิวหน้า และสภาพผิวของแต่ละคน เป็นต้น แต่โดยทั่วไป สิวอุดตันอาจใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ถึง 1-2 เดือนในการหาย หากใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่เหมาะสมและดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธี อย่างไรก็ตาม บางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านี้ หากสิวอุดตันไม่ดีขึ้นหลังการรักษาด้วยตนเอง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจหาสาเหตุ และรับการรักษาที่ตรงจุดนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ยาคุมลดสิวได้จริงไหม เลือกแบบไหนดี?
ยาคุมลดสิวได้ผลจริงหรือไม่? ทำความเข้าใจวิธีการทำงาน ข้อควรระวัง และทางเลือกในการรักษาสิวที่ปลอดภัย พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อ่านต่อในบทความนี้
ไขข้อสงสัย เป็นสิวสเตียรอยด์ สิวติดสาร ทำยังไงดี?
สิวสเตียรอยด์และสิวติดสารคืออาการที่เกิดจากการใช้ครีมผิดวิธี เรียนรู้สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาที่ถูกต้องเพื่อให้ผิวกลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง
สิวแพ้ครีมทำยังไงให้หาย?
สิวแพ้ครีมมีลักษณะอย่างไร พร้อมทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีรักษาที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาผิวหน้าเสียจากการใช้ครีมไม่เหมาะสม รู้ก่อนรักษาทัน