ทำความรู้จัก HIFU คืออะไร ช่วยอะไรได้บ้าง

HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) หรือ ไฮฟู่ เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิว ปัจจุบัน HIFU เป็นหัตถการที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจมากขึ้น ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย คุ้มค่ากับการลงทุนอีกด้วย!

บทความนี้จะพาไปทำความรู้จัก HIFU ตั้งแต่ HIFU คืออะไร หลักการทำงาน ประโยชน์ ความปลอดภัย ไปจนถึงระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้

การทำ HIFU คืออะไร

HIFU คือหัตถการที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ยิงลงไปใต้ผิวหนังในระดับลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวหนังเกิดการยกกระชับและตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือเจาะผิวหนัง จึงไม่มีแผลและใช้เวลาพักฟื้นน้อย

HIFU ช่วยอะไรบ้าง

HIFU ช่วยอะไรบ้าง?

• ยกกระชับผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
• ลดเลือนริ้วรอย ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตา ร่องแก้ม และรอยย่นบนใบหน้า
• กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเนียนเรียบขึ้น
• ปรับโครงหน้า ช่วยให้เส้นกรามชัดเจนขึ้น ลดเหนียง
• ยกคิ้ว ทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น

ทำ HIFU ส่วนไหนได้บ้าง

• ใบหน้า: ยกกระชับผิวหน้า ลดริ้วรอยใต้ตา แก้ม เหนียง
• คอ: ลดความหย่อนคล้อยบริเวณคอ
• แขน: กระชับผิวแขนที่หย่อนคล้อย
• หน้าท้อง: ช่วยกระชับผิวหนังหลังลดน้ำหนัก
• ต้นขา: ลดการหย่อนคล้อยของผิวต้นขา

กระบวนการทำงานของ HIFU เป็นอย่างไร

HIFU ส่งคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงลงไปใต้ผิวหนังลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) คลื่นจะสร้างความร้อนที่จุดโฟกัส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้เกิดการยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ชั้นหนังกำพร้าเกิดการไหม้

HIFU ดีไหม กี่วันเห็นผล?

ผลลัพธ์ของ HIFU จะค่อย ๆ เห็นชัดขึ้น โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงภายใน 1-2เดือนหลังทำ และผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากร่างกายต้องใช้เวลาในการสร้างคอลลาเจน

HIFU อยู่ได้กี่เดือน อยู่ได้นานไหม?

HIFU อยู่ได้กี่เดือน? ผลลัพธ์ของ HIFU สามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน หลังจากทำไปครั้งแรก และสามารถทำซ้ำได้ทุก ๆ 6 เดือน

ข้อดีของการทำ HIFU

• ลดริ้วรอย ยกกระชับใบหน้า และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
• สลายไขมันบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
• ปลอดภัย ไม่ทำร้ายหนังชั้นนอก
• ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถกลับไปทำงานได้ทันที
• ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
• ไม่มีแผลผ่าตัด และไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนาน

HIFU เหมาะกับใคร

HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่ยังไม่พร้อมศัลยกรรม หรือต้องการชะลอการทำศัลยกรรม อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนทำ

HIFU ต่างจากโบท็อกอย่างไร

HIFU และโบท็อกมีหลักการทำงานต่างกัน ดังนี้

• HIFU ใช้คลื่นอัลตราซาวด์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยยกกระชับผิว ในขณะที่โบท็อกเป็นการฉีดสารเพื่อลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยลดริ้วรอย
• HIFU สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกายเพื่อยกกระชับ ในขณะที่โบท็อกจะเน้นเฉพาะจุดเท่านั้น
• HIFU ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า แต่ใช้เวลาเห็นผลนานกว่าโบท็อก

ทำ HIFU ที่ไหนดี

ควรทำ HIFU ที่คลินิกเสริมความงามที่ได้รับมาตรฐาน มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพเท่านั้น เพราะหากไปทำที่คลินิกไม่ได้คุณภาพ และราคาถูกเกินไป อาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นที่น่าพอใจ และเกิดอันตรายตามมาได้

วิธีดูแลหลังการทำ HIFU

• หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดและใช้ครีมกันแดด SPF 50+ เป็นประจำ
• งดการนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อนเป็นเวลา 2 สัปดาห์
• ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
• พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลตัวเองให้ดี

คำถามที่พบบ่อย

1. HIFU กี่ช็อตถึงจะเห็นผล 

จำนวนช็อตขึ้นอยู่กับพื้นที่และความต้องการของแต่ละคน โดยทั่วไปใบหน้าเต็มใช้ประมาณ 400-500 ช็อต อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นกับความลึกและความเข้มข้นของพลังงานที่ใช้ 

2. HIFU ควรทำทุก ๆ กี่เดือน 

โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ HIFU ซ้ำทุก 6 เดือน เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ดี 

3. HIFU ดีไหม ได้ผลจริงไหม 

HIFU ดีไหม? HIFU ได้ผลจริงในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล 

4. หลังทำ HIFU ห้ามทำอะไร

• ออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์
• ทำทรีตเมนต์ใบหน้าอื่น ๆ เช่น การนวดหน้า เป็นเวลา 2 สัปดาห์
• สัมผัสแสงแดดจัดโดยตรงเป็นเวลา 1 สัปดาห์
• ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลา 1 สัปดาห์