ริ้วรอยบนใบหน้า เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากมี เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าเมื่อเกิดริ้วรอยขึ้นบนใบหน้าแล้ว ไม่ว่าจะตื้นหรือลึกล้วนแล้วแต่เป็นตัวการที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุแก่กว่าวัย ยิ่งเมื่ออายุเพิ่มขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวหนังก็ยิ่งเสื่อมลง ปัญหาริ้วรอยก็ยิ่งมีมากขึ้นไปทุกที ซึ่งการแก้ไขริ้วรอยให้ตรงจุด สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเติมคอลลาเจนให้ชั้นผิว เพื่อเรียกความเยาว์วัยให้กลับมา
ริ้วรอยคืออะไร
ริ้วรอย คือ อีกหนึ่งปัญหายอดนิยมที่เกิดขึ้นบนใบหน้า โดยมักปรากฏเป็นรอยพับเล็ก ๆ มีความตื้นและความลึกแตกต่างกันตามแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในบริเวณที่มีการแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น หางตา มุมปาก หรือร่องแก้ม เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้ใบหน้าดูมีอายุกว่าวัย และทำให้ขาดความมั่นใจได้
ริ้วรอยเกิดขึ้นได้อย่างไร
โดยริ้วรอยส่วนใหญ่มักเกิดมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือที่เรียกกันว่า “ริ้วรอยแห่งวัย” แต่นอกจากเรื่องของอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว ก็ยังมีสาเหตุจากปัจจัยอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้เช่นกัน ดังนี้
- แสงแดด: เพราะรังสี UVA และ UVB ที่อยู่ในแสงแดดเป็นตัวการทำให้เกิดปัญหาผิวนานาประการ รวมถึงก่อให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า และยังทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น แห้งกร้านอีกด้วย
- การแสดงสีหน้า: การแสดงสีหน้าอย่างเช่น การยิ้ม การขมวดคิ้ว เลิกคิ้วบ่อย ๆ ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าเพิ่มมากขึ้นได้
- พฤติกรรม: เช่น การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ส่งผลให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่ จะทำให้ผิวแห้งกร้าน และหลอดเลือดตีบ จึงนำสารอาหารและออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงผิวได้ไม่มากพอ
- ความเครียด: เป็นอีกตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดรอยย่นบนใบหน้า และริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ขึ้นมาได้ เพราะเมื่อเราเครียดมักจะเผลอแสดงออกด้วยการขมวดคิ้ว ย่นคิ้ว โดยไม่รู้ตัว รวมถึงเมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา จึงทำให้คอลลาเจนถูกทำลาย และนำไปสู่การเกิดริ้วรอยต่าง ๆ ในที่สุด
วิธีลดริ้วรอยบนใบหน้า
สำหรับคนที่อยากลดริ้วรอยบนใบหน้า สามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเพื่อป้องกันและชะลอไม่ให้ริ้วรอยใหม่ ๆ ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายอักเสบ ซึ่งรวมถึงผิวหนังด้วย และอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ อีกทั้งการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป จะรบกวนการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมเซลล์ผิว รวมถึงลดการผลิตคอลลาเจนลง จึงทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น ดังนั้นหากอยากผิวสวยจึงต้องเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์นั่นเอง
2. หลีกเลี่ยงแสงแดด
การทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสำคัญในการปกป้องผิวจากอันตรายของแสงแดด เพราะแสงแดดเป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ฝ้า กระ และมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นประจำ จึงควรเลือกทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ และมีคุณสมบัติกันน้ำ เพื่อให้การปกป้องผิวที่ยาวนานขึ้นนั่นเอง
3. ใช้ครีมลดริ้วรอยบนใบหน้า
ครีมลดริ้วรอยเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่อาจช่วยทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าแลดูตื้นขึ้นหรือจางลงได้ หากใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานและได้รับการรองรับจากอย. เท่านั้น
4. อาบน้ำอุณหภูมิที่เหมาะสม
การอาบน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนเกินไปหรือไม่เย็นเกินไป จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ เพราะการอาบน้ำร้อนหรือน้ำเย็น จะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นมากกว่าปกติ จึงทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้
5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายทำให้ร่างกายเพิ่มการไหลเวียนโลหิต เลือดลมสูบฉีดดี ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้คนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีผิวพรรณสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกาย และช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้นั่นเอง
วิธีลดริ้วรอยด้วยหัตถการทางแพทย์
สำหรับคนที่มีริ้วรอยบนใบหน้าและต้องการที่จะแก้ไขอย่างเห็นผล ไม่ต้องรอนานเท่ากับการทาครีมลดริ้วรอย การทำหัตถการทางการแพทย์ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะในปัจจุบันนี้ก็มีหัตถการที่ช่วยลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพหลายอย่าง เช่น
1. ฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อก หรือ โบทูลินัมท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) เป็นเทคนิคความงามที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติในการคลายกล้ามเนื้อเฉพาะจุด ทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวหน้าเรียบเนียน อ่อนเยาว์ขึ้น และดูเป็นธรรมชาติ แถมป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย
2. ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มที่ทำจากไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบในร่างกายของเรา มีหน้าที่ในการอุ้มน้ำและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เมื่ออายุมากขึ้นปริมาณ HA ในผิวจะลดลง ทำให้เกิดริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จึงถูกนำมาใช้เพื่อทดแทน HA ที่สูญเสียไป ซึ่งจะช่วยเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวหน้าดูอิ่มฟู เรียบเนียน และอ่อนเยาว์ขึ้น
3. คลื่นวิทยุ
การยกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) เป็นเทคโนโลยีความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยหลักการทำงานที่ปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ด้วยปล่อยพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิวหนัง ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวกระชับเกิดการหดตัวและกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์ใหม่ จึงช่วยให้ผิวกลับมาเต่งตึง เรียบเนียน ริ้วรอยลดเลือน และรูขุมขนกระชับขึ้น
4. เมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใสเป็นการบำรุงผิวแบบเข้มข้น ด้วยการฉีดสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมามีสุขภาพดี เปล่งปลั่ง และอ่อนเยาว์
5. HIFU
การทำ HIFU เป็นเทคโนโลยีการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ยิงลงไปใต้ชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและอีลาสติน โดยคลื่นจะลงลึกถึงชั้น SMAS ให้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้า จึงช่วยยกกระชับ เติมเต็มความอิ่มเอิบให้ผิว และลดริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างตรงจุด
สรุปบทความ
แม้ว่าปัญหาริ้วรอยจะเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือจากสาเหตุปัจจัยที่มาจากการใช้ชีวิต ความเครียด และแสงแดด แต่เราสามารถดูแล ป้องกัน และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยเหล่านี้ได้ด้วยการปรับพฤติกรรม และพึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาริ้วรอย เช่น การฉีด Botox, การฉีด Filler, การทำ HIFU และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อจบปัญหาริ้วรอยอย่างตรงจุด หากคุณอยากมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ แต่ไม่มั่นใจว่าหัตถการไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุด ก็สามารถขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติมกับ Dr.Nat Clinic ได้เลย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รักษาปัญหาสิวเสี้ยนอย่างไรดี
สิวเสี้ยนเกิดจากอะไร? บทความนี้จะมาเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวเสี้ยน พร้อมวิธีรักษาและป้องกันสิวเสี้ยนกลับมาอีกครั้ง หากอยากมีผิวสวยใส ห้ามพลาด!
ไขข้อสงสัย Hifu ต้องทำบ่อยแค่ไหน
HIFU ทำได้บ่อยแค่ไหน? อยากหน้าเด็กไว ๆ ต้องทำกี่ครั้ง? เผยเคล็ดลับการทำ HIFU ให้เห็นผลเร็วที่สุด ช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์ได้อย่างปลอดภัย อ่านเลย!
รวมเรื่องต้องรู้ของสิวเม็ดข้าวสาร
สิวเม็ดข้าวสาร คืออะไร? รู้จักสิวเม็ดเล็ก ๆ ที่น่ารำคาญ พร้อมวิธีสังเกตและสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวเม็ดข้าวสาร และวิธีดูแลผิวเพื่อป้องกันการเกิดสิวชนิดนี้ได้ที่นี่เลย!