
ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นหนึ่งในวิธีการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการเติมเต็มร่องลึก และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้หลายคนสนใจที่จะลองใช้บริการ แต่ก่อนจะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ มาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นกันก่อนดีกว่า ว่าคืออะไร มีแบบไหนบ้าง และช่วยอะไรได้บ้าง
ฟิลเลอร์คืออะไร
ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ร่องลึก หรือส่วนที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม ฟิลเลอร์นั้นจะอยู่ในรูปไฮยาลูรอน หรือ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในชั้นผิว สามารถสลายเองได้ ปลอดภัย
ประเภทของฟิลเลอร์ มีกี่แบบ
ฟิลเลอร์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก คือ ฟิลเลอร์แบบถาวร ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร และฟิลเลอร์ชั่วคราว ดังนี้
1. ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler)
ฟิลเลอร์แบบถาวรทำจากวัสดุสังเคราะห์ที่ไม่สามารถสลายในร่างกายได้ เช่น ซิลิโคน ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน แต่มีความเสี่ยงสูงและแก้ไขยากหากเกิดปัญหา ปัจจุบันฟิลเลอร์แบบถาวรเป็นฟิลเลอร์ไม่ผ่านอย. ไม่สามารถนำมาใช้ในการฉีดได้
2. ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi Permanent Filler)
ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร เช่น สารแคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite) คือ ฟิลเลอร์ที่สามารถสลายได้ แต่ไม่สามารถสลายได้หมด 100% สามารถอยู่ได้นานประมาณ 2-5 ปี มีการใช้ในต่างประเทศ แต่ไม่ผ่านอย. ในประเทศไทย
3. ฟิลเลอร์ชั่วคราว (Non-Permanent Filler)
ฟิลเลอร์ชั่วคราวทำจากกรดไฮยาลูโรนิก Hyaluronic acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และสามารถแก้ไขได้หากไม่พอใจ ฟิลเลอร์ประเภทนี้อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดและบริเวณที่ฉีด
เนื้อฟิลเลอร์มีกี่แบบ

เนื้อฟิลเลอร์มีทั้งหมด 3 กลุ่ม ดังนี้
1. ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง
ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณที่ต้องการความอยู่ทนนาน เช่น โหนกแก้ม คาง ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ได้แก่ Restylane Perlane Lift, Juvederm Voluma, Perfectha Subskin และ Belotero Volume
2. ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม
ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีลักษณะเนื้อที่นุ่มกว่าแบบแรก คล้ายเยลลี่ เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณที่ต้องการความอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติ เช่น ริมฝีปาก รอบดวงตา หรือร่องแก้ม ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับแต่งเล็กน้อยหรือเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ได้แก่ Belotero Balance, Restylane Classic, Juvederm Ultra Plus
3. ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีเนื้อละเอียดและบางเบาคล้ายน้ำมากที่สุด เหมาะสำหรับการแก้ไขเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว แต่อาจต้องทำซ้ำบ่อยกว่าแบบอื่นเนื่องจากสลายตัวเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ฟิลเลอร์หรือต้องการผลลัพธ์ที่ละเอียดอ่อน ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เช่น Belotero soft, Juverderm Volite, Restylane Vital Light
ฟิลเลอร์ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
- ฟิลเลอร์ริมฝีปาก: เพิ่มความอวบอิ่ม ปรับรูปทรง ลดริ้วรอย ลดขอบปากคล้ำ ปากแห้ง
- ฟิลเลอร์แก้ม ร่องแก้ม: ลดร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
- ฟิลเลอร์ใต้ตา: แก้ปัญหาถุงใต้ตา ร่องตาลึก ขอบตาดำ
- ฟิลเลอร์จมูก: เสริมสันจมูก เพิ่มความคมของปลายจมูก
- ฟิลเลอร์คาง: เพิ่มความยาว ปรับรูปหน้า คางไม่เท่ากัน คางตัด
- ฟิลเลอร์ขมับ: เติมเต็มส่วนที่บุ๋ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
- ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก: ลดริ้วรอยจากมุมปากที่ทำให้ดูสูงวัย
- ฟิลเลอร์กรอบหน้า: แก้ปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หย่อนคล้อย
ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะกับแต่ละจุด
- ฟิลเลอร์ริมฝีปาก: 1-2 cc
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม: 2-4 cc
- ฟิลเลอร์ใต้ตา: 1-3 cc
- ฟิลเลอร์คาง: 1-3 cc
- ฟิลเลอร์ขมับ: 1-3 cc
ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีความเสี่ยงเล็กน้อยเช่นเดียวกับหัตถการอื่น ๆ อาจเกิดรอยช้ำ บวม หรือแดงเล็กน้อยซึ่งหายได้เอง ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงพบได้น้อยมาก แต่อาจเกิดขึ้นได้หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความชำนาญ ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์
ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี
ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี? ขอแนะนำ Top 5 ฟิลเลอร์ที่ใช้กันในประเทศไทยและผ่านการรับรองโดย อย. และ FDA
- Juvéderm
Juvéderm เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกา มีความยืดหยุ่นสูง ผิวเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติหลังฉีด
- Restylane
Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน โดยเทคโนโลยี NASHA technology จะช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นเพราะมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ส่วนเทคโนโลยี OBT technology มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการแก้ไขริ้วรอย และเติมเต็มร่องลึก ร่องแก้ม แก้มตอบ เป็นต้น
- Belotero
Belotero เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ ได้ดีและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- Perfectha
Perfectha เป็นฟิลเลอร์จากประเทศฝรั่งเศส ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน นิยม ใช้มากในแถบเอเชีย
- Neuramis
Neuramis เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดใช้ยาต้านการอักเสบและยาละลายลิ่มเลือด 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังตั้งครรภ์
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
- ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น เห็นผลเร็ว
- ความเสี่ยงต่ำ เมื่อฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- สามารถเติมได้เรื่อย ๆ ไม่เป็นอันตราย
ข้อควรปฏิบัติก่อนการฉีดฟิลเลอร์
- เลือกแพทย์และคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัย
- ปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเกี่ยวกับความต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า
- งดยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น แอสไพริน NSAIDs เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนฉีด
- หากมีโรคประจำตัว ให้แจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์
- ควรดื่มน้ำ 8-16 แก้วในช่วง 4 วันแรก
- นอนหมอนสูงในช่วง 3-4 วันแรก
- ประคบผ้าเย็นในบริเวณที่ฉีด
- งดออกกำลังกายหนักเป็นเวลา 2 วัน
- งดทานยาแอสไพริน Vitamin E ใบแป๊ะก๊วย
- หลีกเลี่ยงแสงแดด หรืออาบแดด และซาวน่า
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ฉีดฟิลเลอร์ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic)
ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic) เราให้บริการฉีดฟิลเลอร์ ปรับรูปหน้า แต่งทรงปากตามโครงสร้างหน้า ด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ MFILL Program (Micro-scan Filler) โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำ Facial Ultrasound ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้เห็นถึงปัญหาโครงสร้างของใบหน้า โครงสร้างใต้ชั้นผิว เส้นเลือด เส้นประสาท และ filler ซิลิโคนเหลวเดิมที่เคยฉีด นำไปสู่การวางแผนการรักษาที่ถูกต้อง แม่นยำเฉพาะบุคคล นอกจากนี้ เรานำเข้าฟิลเลอร์คุณภาพที่ผ่านการรับรองจาก อย. มุ่งเน้นความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ ในราคาเริ่มต้นที่ 9,990 บาทเท่านั้น
คำถามที่พบบ่อย
1. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์ชั่วคราวส่วนใหญ่อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด และการตอบสนองของร่างกายแต่ละคน
2. ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน กี่วันเห็นผล
อาจมีอาการบวมเล็กน้อยประมาณ 2-3 วัน ในบางรายอาจบวมนานถึง 1 สัปดาห์ ส่วนผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังฉีด แต่ผลลัพธ์จะชัดเจนหลังจากอาการบวมยุบลง ประมาณ 1-2 สัปดาห์
3. ฉีดฟิลเลอร์ต้องระวังอะไรบ้าง
- ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดอย่างรุนแรงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- งดการออกกำลังกายหนัก ๆ 24 ชั่วโมงหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือเข้าซาวน่า
- ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ก่อนและหลังฉีด
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
4. ฉีดฟิลเลอร์เจ็บมากไหม
โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ไม่เจ็บมาก เนื่องจากมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนฉีด นอกจากนี้ ระดับความเจ็บปวดขึ้นอยู่กับความไวต่อความเจ็บปวดของแต่ละคนและบริเวณที่ฉีดด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เลือกทรงปากให้เหมาะกับใบหน้ายังไงดี?
รวม 9 ทรงปากสวยยอดฮิต พร้อมเทคนิคเลือกให้เข้ากับรูปหน้า ทั้งสไตล์เกาหลีและสายฝอ เพื่อริมฝีปากสวย ดูเป็นธรรมชาติ ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปดูกันเลย!
รวมวิธีบอกลาใต้ตาดำ หมีแพนด้า เผยตาสดใส
รวม 6 วิธีแก้ใต้ตาดำด้วยตัวเองที่ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน พร้อมทางเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาแบบเร่งด่วน เผยความลับสู่ผิวใต้ตาสดใส ไร้รอยคล้ำ อ่านเลย!”
ไขคำตอบ ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
ไขข้อสงสัย ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน พร้อมปัจจัยที่ส่งผลต่อความคงทน ทั้งชนิดฟิลเลอร์ ตำแหน่งฉีด และการดูแลหลังฉีด เรียนรู้วิธีดูแลตัวเองเพื่อยืดอายุฟิลเลอร์