ผิวเป็นไต มีหนองสะสม อาจไม่ใช่สิว แต่เป็น “รูขุมขนอักเสบ”

August, 20 2025

/ By Doctor NAT Clinic

เคยไหมที่สัมผัสผิวหน้าของตัวเองแล้วรู้สึกขัดใจ เพราะมีตุ่มแดงเล็ก ๆ เกิดขึ้น จนทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส ทำให้อดใจไม่ไหวจนต้องบีบให้หัวสิวออกมา แต่กลับยิ่งเจ็บและอักเสบมากกว่าเดิม แถมนานวันเข้าก็ยังไม่หาย นั่นอาจเป็นเพราะว่า แท้จริงแล้วตุ่มแดง ๆ ที่เราเห็นอาจไม่ใช่สิวอย่างที่เราคิด แต่คือผิวที่มีปัญหาจาก “รูขุมขนอักเสบ” จนเกิดตุ่มขึ้นบนใบหน้า

Table of Contents

เจาะลึกปัญหาผิว “รูขุมขนอักเสบ (Folliculitis)” คืออะไร ?

รูขุมขนอักเสบ (Folliculitis) คือการอักเสบที่เกิดขึ้นที่รูขุมขน ซึ่งเป็นช่องเล็ก ๆ ที่มีเส้นขนเติบโตออกมา ปัญหารูขุมขนอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อยีสต์ Pityrosporum folliculitis , การติดเชื้อแบคทีเรีย Gram negative folliculitis , Staphylococcal folliculitis , เชื้อไร Demodex spp. เป็นต้น หรือการระคายเคืองจากปัจจัยต่าง ๆ ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน จนเกิดการบวมแดงและอาจจะมีหนองสะสมอยู่ภายใน ยิ่งถ้ามีการติดเชื้อในรูขุมขนยังจะทำให้เกิดการอักเสบที่เห็นได้ชัดเจนบนผิวหนังด้วย

ลักษณะอาการของรูขุมขนอักเสบ

  • มีตุ่มแดงหรือเป็นหนอง: บริเวณที่อักเสบจะเกิดตุ่มหรือก้อนหนองที่ผิวหนัง
  • ความเจ็บปวด: รู้สึกเจ็บหรือแสบที่เกิดจากการอักเสบ
  • การบวม: บริเวณที่เกิดการอักเสบอาจบวมขึ้น
  • อาการคัน: บางครั้งรูขุมขนอักเสบยังอาจทำให้รู้สึกคันได้

ระดับความรุนแรงของรูขุมขนอักเสบ (Folliculitis Severity)

  • ระดับตื้น (Superficial Folliculitis): ลักษณะเป็นตุ่มแดงหรือตุ่มหนองขนาดเล็กบริเวณปากรูขุมขน โดยทั่วไปพบได้บ่อยในบริเวณที่มีการอุดตันหรือเสียดสี อาการมักไม่ลุกลาม และหายได้โดยไม่ทิ้งรอย หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง
  • ระดับลึก (Deep Folliculitis / Furunculosis): เป็นการอักเสบที่ลุกลามลึกลงไปในชั้นผิวหนัง อาจมีลักษณะเป็นไตแข็งใต้ผิว เจ็บ บวมแดง และอาจมีหนองจำนวนมาก หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจทิ้งรอยดำ (Post-inflammatory Hyperpigmentation) หรือรอยแผลเป็นได้

โดยทั่วไปรูขุมขนอักเสบ เป็นไตใต้ผิว มักพบในตำแหน่งที่มีต่อมไขมันหนาแน่น เช่น บริเวณใบหน้า แก้ม คาง ลำคอ หลัง และลำตัว ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสเกิดการอุดตันของรูขุมขนและติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย โดยเฉพาะหากมีการเสียดสี เหงื่อสะสม หรือสัมผัสบ่อยจากกิจวัตรประจำวัน เช่น การโกนหนวด การใส่เสื้อผ้ารัดแน่น หรือใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะกับสภาพผิว

สาเหตุของการเกิดรูขุมขนอักเสบบนใบหน้า

รูขุมขนอักเสบ สามารถหายเองได้ เพียงต้องรักษาอย่างถูกวิธี

ปัญหารูขุมขนอักเสบสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากเชื้อจุลชีพ เช่น แบคทีเรียหรือเชื้อรา รวมถึงปัจจัยทางกายภาพหรือเคมีที่ทำให้รูขุมขนอุดตันหรือเกิดการระคายเคืองได้ง่าย เช่น

  • การติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus: เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของรูขุมขนอักเสบ โดยเชื้อแบคทีเรียจะเข้าสู่รูขุมขนผ่านทางผิวหนังที่มีบาดแผลเล็ก ๆ หรือถูกเสียดสี ทำให้เกิดตุ่มแดง ตุ่มหนอง และอาการอักเสบเฉพาะที่
  • การติดเชื้อยีสต์ในกลุ่ม Malassezia (Pityrosporum folliculitis): เป็นเชื้อราที่อยู่บนผิวตามธรรมชาติ หากมีปัจจัยกระตุ้น เช่น ความชื้น เหงื่อสะสม หรือภูมิคุ้มกันผิวลดลง เชื้อชนิดนี้อาจเจริญเติบโตมากขึ้นจนก่อให้เกิดการอักเสบที่รูขุมขนได้ โดยมักมีลักษณะเป็นตุ่มแดงคันบริเวณหน้า ลำตัว และหลัง
  • การโกนขนหรือถอนขนที่ไม่ถูกวิธี: การใช้ใบมีดโกนที่ไม่สะอาด หรือการถอนขนรุนแรง อาจทำให้เกิด microtrauma (บาดแผลเล็ก ๆ) และทำให้เชื้อโรคเข้าสู่รูขุมขนได้ง่าย รวมถึงเพิ่มโอกาสการเกิดขนคุดซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการอักเสบซ้ำ
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน (Comedogenic products): เครื่องสำอางหรือครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน เช่น ซิลิโคนบางชนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรูขุมขนอักเสบ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวมันหรือมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย
  • การล้างหน้าไม่เหมาะสม: ล้างหน้าไม่สะอาดหรือใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะกับสภาพผิว อาจทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรก เหงื่อ เครื่องสำอาง และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้รูขุมขนอักเสบและอักเสบได้ง่าย
  • ผิวมันและการผลัดเซลล์ผิวที่ไม่สมดุล: ในผู้ที่มีผิวมันต่อเนื่อง ร่วมกับการผลัดเซลล์ผิวที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ อาจทำให้เกิดการสะสมของเคราตินในรูขุมขน (follicular hyperkeratosis) และส่งผลให้เกิดการอุดตัน นำไปสู่การอักเสบได้ในที่สุด

จะเป็นอย่างไรหากรูขุมขนอักเสบ ใช้วิธีรักษาไม่ถูกต้อง ?

รูขุมขนอักเสบเป็นปัญหาผิวที่ควรได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม เพราะหากดูแลอย่างผิดวิธีอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์หลายประการ ดังนี้

  • การอักเสบลุกลามหรือกลายเป็นหนองลึก (Furuncle/Carbuncle): การบีบ แกะ หรือเกาบริเวณที่อักเสบ อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียกระจายสู่เนื้อเยื่อรอบข้าง เกิดการอักเสบลุกลามลึกลงไปในชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นฝีขนาดใหญ่หรือกลุ่มของฝี (carbuncle) ซึ่งมักต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์เฉพาะทาง
  • เสี่ยงต่อการเกิดรอยดำหรือแผลเป็นถาวร (Post-inflammatory hyperpigmentation & Scarring): การอักเสบที่เกิดซ้ำ หรือไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี อาจทิ้งร่องรอยหลังการหาย เช่น รอยดำ รอยแดง หรือแม้กระทั่งแผลเป็นหลุม ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานในการรักษา หรือจำเป็นต้องใช้หัตถการเพิ่มเติม เช่น เลเซอร์ หรือการผลัดเซลล์ผิว
  • เกิดภาวะรูขุมขนอักเสบเรื้อรัง (Chronic folliculitis): หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่ต้น รูขุมขนอักเสบอาจกลับมาเป็นซ้ำได้บ่อย และกลายเป็นภาวะเรื้อรังที่ตอบสนองต่อการรักษายากขึ้นในระยะยาว

รูขุมขนอักเสบ หายเองได้ไหม และใช้เวลากี่วันหาย ?

ปัญหารูขุมขนอักเสบสามารถหายเองได้ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและดูแลผิวอย่างเหมาะสม สำหรับกรณีที่อาการรุนแรงหรือมีหนองสะสม อาจใช้เวลานานกว่า 1-2 สัปดาห์ และถ้าหากรักษาผิดวิธีหรือปล่อยเอาไว้ อาจทำให้อาการอักเสบลุกลามและหายได้ยากยิ่งขึ้น

บอกลาปัญหารูขุมขนอักเสบ ด้วยวิธีรักษาที่ถูกต้อง

การรักษารูขุมขนอักเสบควรทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบซ้ำ โดยสามารถทำตามคำแนะนำ ดังนี้

  • การใช้ยาทาภายนอกที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide และ Salicylic Acid: ช่วยลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง ผลัดเซลล์ผิวที่อุดตันรูขุมขน และลดการอักเสบในระดับตื้น เหมาะกับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงหรือเป็นซ้ำบ่อย
  • การรับประทานยาปฏิชีวนะในกรณีที่อาการรุนแรง: หากมีการอักเสบลุกลามหรือมีการติดเชื้อชัดเจน แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Tetracycline เช่น Doxycycline หรือ Minocycline เพื่อควบคุมการติดเชื้อ
  • การเจาะระบายหนองโดยแพทย์ (Incision & Drainage): ในกรณีที่รูขุมขนอักเสบ เป็นไต หรือมีหนองสะสม แพทย์อาจต้องทำหัตถการเจาะระบายเพื่อบรรเทาอาการและป้องกันการลุกลามของการอักเสบ
  • การดูแลด้วยเทคโนโลยี เช่น เลเซอร์ฆ่าเชื้อ: ในบางกรณี แพทย์อาจเลือกใช้พลังงานเลเซอร์ที่มีคุณสมบัติลดการอักเสบและควบคุมเชื้อแบคทีเรีย เช่น IPL หรือ ND:YAG Laser ซึ่งเป็นวิธีเสริมในการควบคุมปัญหาที่เป็นซ้ำบ่อย
  • การประเมินและวางแผนการรักษาโดยแพทย์ผิวหนัง: การรักษาที่มีประสิทธิภาพเริ่มจากการประเมินโดยแพทย์ เพื่อระบุชนิด ความรุนแรง และสาเหตุของรูขุมขนอักเสบในแต่ละราย แล้วเลือกแนวทางที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุด

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT

สรุปความเหมือนและแตกต่างระหว่าง “รูขุมขนอักเสบ VS สิว”

รูขุมขนอักเสบ VS สิวอักเสบ แตกต่างกันอย่างไร

แม้ว่าทั้งรูขุมขนอักเสบและสิว จะมีลักษณะเป็นตุ่มแดงหรือมีหนองเล็ก ๆ คล้ายคลึงกัน แต่ทั้งสาเหตุและวิธีรักษากลับแตกต่างกันอย่างมาก ดังนั้น การแยกแยะให้ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการดูแลผิวและเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม

คุณสมบัติ รูขุมขนอักเสบ (Folliculitis) สิว (Acne)
ลักษณะ ตุ่มแดงหรือหนองเล็ก ๆ ที่ผิวหนัง อาจมีอาการบวม เจ็บ หรือคัน ตุ่มหัวดำ, หัวขาว, หรือก้อนหนองที่มีหัวสิว มักเกิดการอุดตันภายในรูขุมขน
สาเหตุ การติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus Aureus, เชื้อรา, หรือการอุดตันรูขุมขน การอุดตันของรูขุมขนโดยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium Acnes (P. acnes)
ตำแหน่งที่พบบ่อย ใบหน้า, คาง, แก้ม, ลำคอ, ลำตัว ใบหน้า, หลัง, หน้าอก, ไหล่
ลักษณะของตุ่ม ตุ่มแดงหรือหนองเล็ก ๆ ที่ผิวหนัง อาจมีอาการบวม เจ็บ หรือคัน ตุ่มหัวดำ, หัวขาว, หรือก้อนหนองที่มีหัวสิว มักเกิดการอุดตันภายในรูขุมขน
สาเหตุจากพฤติกรรม การโกนขน, การใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน, การล้างหน้าไม่สะอาด การผลิตน้ำมันในผิวมากเกินไป, การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน เช่น ครีมบำรุงผิวที่มีน้ำมัน
อาการเจ็บปวด อาจเจ็บหรือแสบจากการอักเสบ มักจะมีอาการเจ็บจากการบีบสิวหรือสิวที่อักเสบรุนแรง
การรักษา ใช้เจล Benzoyl Peroxide, Salicylic Acid, ยาปฏิชีวนะ, หรือเลเซอร์ ใช้ยาลดการอักเสบ เช่น Benzoyl Peroxide, Salicylic Acid, การทายาเรตินอยด์ หรือการทำทรีตเมนต์
การรักษาเมื่อใช้วิธีผิด การบีบหรือเกา สามารถทำให้เชื้อกระจาย, ทำให้การอักเสบลุกลามและทิ้งรอยแผลเป็น การบีบสิวสามารถทำให้เกิดแผลเป็น รอยดำ หรือการติดเชื้อซ้ำซ้อน

โปรแกรมดูแลสิวและรูขุมขนอักเสบอย่างครบวงจรที่ดอกเตอร์แนทคลินิก

ปัญหาสิวและรูขุมขนอักเสบ คืออุปสรรคใหญ่ที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง พร้อมจบปัญหาด้วยโปรแกรมรักษาที่ช่วยกู้ผิวให้กลับมาเรียบเนียนกับ ดอกเตอร์แนทคลินิก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการดูแลจากแพทย์

เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ยั่งยืน เราขอนำเสนอโปรแกรม Acne Resolve และ โปรแกรม Acclear ที่ช่วยจัดการกับสาเหตุของสิวและการอักเสบในรูขุมขนอย่างละเอียดและตรงจุด

โปรแกรม Acne Resolve ลดการอักเสบและป้องกันการติดเชื้อในรูขุมขน

โปรแกรม Acne Resolve ใช้เทคโนโลยีคลื่นพลังงาน RF ซึ่งมีความสามารถในการรักษาสิวและรูขุมขนอักเสบ โดยจะเข้าไปจัดการกับต่อมไขมันที่เป็นต้นเหตุของการอุดตันและการติดเชื้อในรูขุมขน ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดหนองที่สะสมอยู่ในรูขุมขน

  • พลังงานคลื่น RF: กระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวและลดขนาดของต่อมไขมันที่อุดตัน ช่วยให้รูขุมขนสะอาดและลดโอกาสเกิดการอักเสบหรือการติดเชื้อใหม่
  • การรักษาต่อเนื่อง: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวและรูขุมขนอักเสบบ่อย ๆ หรือมีอาการอักเสบที่ไม่หายขาด

โปรแกรม Acclear รักษาสิวอักเสบและรูขุมขนอักเสบได้อย่างรวดเร็ว

โปรแกรม Acclear ผสาน 2 เทคโนโลยีรักษาสิวที่ต้นตอ เข้ามาเพื่อรักษาสิว พร้อมฟื้นฟูผิวถึงต้นตอ โดยจัดการสิวที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า โดยใช้พลังงานเลเซอร์ ทำงานกับต่อมไขมันใต้ผิว ช่วยลดขนาดต่อมไขมัน ที่เป็นปัจจัยสำคัญของการเกิดสิว และจัดการสิวอักเสบที่ขึ้นมาบนผิว โดยใช้คลื่นวิทยุผ่านหัวเข็มขนาดเล็ก ลงสู่จุดที่มีปัญหา ทำให้ต่อมไขมันจุดที่รักษาฝ่อไป และในคนที่ไม่อยากกินยาเป็นระยะเวลานาน ทางคลินิกจึงใช้เทคโนโลยีที่ช่วยรักษาถึงต้นตอ เพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่ โดยไม่ต้องพึ่งยาสิว ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาทั้งสิวและรูขุมขนอักเสบ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการอักเสบฝังรากลึก

  • พลังงานคลื่น RF: กระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวและลดขนาดของต่อมไขมันที่อุดตัน ช่วยให้รูขุมขนสะอาดและลดโอกาสเกิดการอักเสบหรือการติดเชื้อใหม่
  • พลังงานอินฟราเรด: ลดขนาดของต่อไขมัน และฆ่าเชื้อ C.acnes (ชื่อเดิม P.acnes) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบในรูขุมขน
โปรแกรม Acne Lab ตรวจเชื้อสิว

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT

บอกลาผิวขรุขระจากรูขุมขนอักเสบและปัญหาสิว ได้ที่ ดอกเตอร์แนทคลินิก

หากคุณไม่แน่ใจว่าเป็นสิวหรือรูขุมขนอักเสบที่ต้องการการดูแลจากแพทย์ สามารถปรึกษา ดอกเตอร์แนทคลินิก คลินิกรักษาสิวที่พร้อมวิเคราะห์ปัญหาผิวอย่างละเอียด ด้วยโปรแกรม Acne Lab ตรวจเชื้อสิวเฉพาะบุคคล ที่จะเก็บตัวอย่างสิว นำไปส่องกล้องจุลทรรศน์ เพื่อค้นหาเชื้อไหนกระตุ้นให้เกิดสิว (เชื้อแบคทีเรีย ,เชื้อรา ,เชื้อไร และเชื้อยีสต์) และตรวจโปรแกรม Fit Test ภูมิแพ้อาหารแฝง พร้อมวางแผนรักษาอย่างตรงจุด ด้วยโปรแกรม Acne Resolve และโปรแกรม Acclear ที่ช่วยจัดการต่อมไขมันลึกใต้ผิว ฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบ พร้อมฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน โดยไม่ต้องพึ่งยาในระยะยาว

ติดต่อเราได้ที่ Line : @doctornat หรือ โทร. 097-9749944

ข้อมูลอ้างอิง :

  1. Acne-like breakouts could be folliculiti. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 จาก https://www.aad.org/public/diseases/a-z/folliculitis
  2. Folliculitis. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 จาก https://www.msdmanuals.com/professional/dermatologic-disorders/bacterial-skin-infections/folliculitis

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ไม่ทากันแดด เป็นไรไหม ? เสี่ยงฝ้า-ริ้วรอย ผิวพัง

รู้ทันผลเสียจากการไม่ทากันแดด เสี่ยงผิวคล้ำเสีย ฝ้ากระขึ้นหน้า ทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวมีริ้วรอยก่อนวัย พร้อมแนะนำวิธีรักษาฝ้าป้องกันผิวอย่างปลอดภัย

มีตุ่มนูนแดงบนหน้า อย่าชะล่าใจ ! รีบรู้ทันสาเหตุและวิธีรักษา

พบตุ่มนูนแดง คัน หรือเจ็บบนใบหน้าใช่ไหม ? อย่าปล่อยทิ้งไว้เพียงเพราะคิดว่าจะหายเอง รีบมารู้จักสาเหตุของจุดแดงบนหน้าและวิธีรักษาอย่างถูกต้องก่อนสายไป

 เลือกทรงปากให้เหมาะกับใบหน้ายังไงดี?

รวม 9 ทรงปากสวยยอดฮิต พร้อมเทคนิคเลือกให้เข้ากับรูปหน้า ทั้งสไตล์เกาหลีและสายฝอ เพื่อริมฝีปากสวย ดูเป็นธรรมชาติ ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปดูกันเลย!

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT