

สิวไม่มีหัวเกิดจากอะไร
สิวไม่มีหัว เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนและการอักเสบใต้ผิวหนัง และปัจจัยหลาย ๆ อย่างดังต่อไปนี้
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ
- มลภาวะทางอากาศ อากาศร้อน
- ล้างหน้าไม่สะอาด
- ความเครียด
- กรรมพันธุ์
- เครื่องสำอางที่ระคายเคืองผิว
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
- ยาบางชนิดที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสิว
- สิวอักเสบไม่มีหัวบวมแดง อาจเกิดจากการแกะสิว บีบสิว หรือติดเชื้อ

ประเภทของสิวไม่มีหัว
สิวไม่มีหัวสามารถเกิดได้กับสิวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตัน ไปจนถึงสิวหัวช้างค่ะ
สิวอักเสบไม่มีหัว
สิวอักเสบไม่มีหัว เป็นสิวนูน แดง มีลักษณะเป็นก้อนแข็ง เกิดจากการอักเสบใต้ชั้นผิวหนัง อาจมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเกิดจากการสัมผัส หรือบีบสิวบ่อย ๆ จนทำให้เกิดการระคายเคือง และเกิดการอักเสบในที่สุด
สิวอุดตันไม่มีหัว
สิวอุดตันไม่มีหัว มักจะเป็นสิวอุดตัวหัวปิด หรือสิวหัวขาว เป็นสิวขนาดเล็กที่เกิดจากการอุดตันในรูขุมขน ไม่แนะนำให้กดสิวชนิดนี้เอง เพราะอาจจะทำให้ยิ่งอักเสบได้
สิวหัวช้างไม่มีหัว
สิวหัวช้างไม่มีหัว มีอีกชื่อเรียกว่าสิวไตหรือสิวซีสต์ เป็นสิวอักเสบที่มีขนาดใหญ่ มีลักษณะนูน แข็ง และสิวหัวช้างไม่มีหัวจะไม่สามารถกดได้ ใช้เวลานาน และอาจจะหลงเหลือรอยแผลไว้ได้ จึงต้องได้รับการรักษาที่เหมาะสม

สิวไม่มีหัวเกิดบริเวณไหนบ้าง
สิวไม่มีหัวมักพบได้บริเวณต่อไปนี้
- คาง : สิวไม่มีหัวจะพบได้บริเวณนี้มากที่สุด เพราะเป็นบริเวณที่เราเอามือมาสัมผัสบ่อยที่สุด อาจจะนำแบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่าง ๆ เข้ามาได้
- แก้ม : อีกส่วนที่เกิดสิวไม่มีหัวได้บ่อยคือบริเวณแก้ม เพราะถูกสัมผัสด้วยมือและแมสก์บ่อย ซึ่งสิวอีกประเภทที่เจอได้บ่อยคือ สิวผด
- จมูก
- หน้าผาก : หน้าผาก เป็นอีกที่ที่มักจะเกิดสิวไม่มีหัว เพราะสัมผัสกับเหงื่อจากผม อาจจะเกิดการระคายเคืองจนเกิดสิวที่หน้าผาก

วิธีรักษาสิวไม่มีหัว
การรักษาสิวไม่มีหัวมีหลายวิธี ทั้งการรักษาด้วยตนเองที่บ้านและการรักษาโดยแพทย์ผิวหนังค่ะ
1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน
การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาสิวอักเสบไม่มีหัว ควรล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน หลีกเลี่ยงการขัดถูแรง ๆ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองและกระตุ้นการอักเสบได้ และซับหน้าเบา ๆ ด้วยผ้าสะอาด
2. ใช้ครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของ Benzoyl Peroxide หรือ Benzac ซึ่งช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน ครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid, Benzoyl peroxide หรือ Retinol จะช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้
3. ประคบเย็นเพื่อลดการอักเสบและบวมแดง
หากสิวอักเสบไม่มีหัวเกิดการบวมแดง การประคบเย็นด้วยน้ำแข็ง หรือ Ice Packs จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบและลดอาการบวมแดงของสิวได้ โดยวางบนบริเวณที่เป็นสิวประมาณ 2-5 นาที วิธีนี้ช่วยลดการไหลเวียนเลือดบริเวณที่อักเสบ ทำให้สิวยุบเร็วขึ้น
4. หลีกเลี่ยงการแกะหรือบีบสิว
การแกะหรือบีบสิวอาจทำให้เกิดการสิวอักเสบไม่มีหัวมากขึ้น และเพิ่มโอกาสการเกิดแผลเป็น ดังนั้น ควรปล่อยให้สิวหายเองตามธรรมชาติ หากรู้สึกคันหรืออยากสัมผัส ให้ล้างมือให้สะอาดก่อนแตะผิวหน้า แต่พยายามไม่เกาหรือขยี้บริเวณที่เป็นสิว
5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำให้เพียงพอ
อาหารที่มีประโยชน์และการดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวจากภายใน รับประทานผักผลไม้หลากสี อาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยขับสารพิษและรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว
6. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาสิวที่เหมาะสม แพทย์อาจพิจารณาให้ยาทาเฉพาะที่ หรืออาจจะเก็บตัวอย่างสิวไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด และมีการทำเลเซอร์และการรักษาที่ละเอียดกว่าต่อไปค่ะ

โปรแกรมรักษาสิวที่ต้นตอ Acne Resolve / โปรแกรมรักษาสิว ลดการทายารักษาสิว Acne Resize ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic)
ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic) เรามี โปรแกรมรักษาสิวที่ต้นตอ อย่าง Acne Resolve ที่จะใช้พลังงานชนิดเดียวกับเครื่อง Monopolar RF เพื่อเข้าไปสลายต่อมไขมัน สามารถฆ่าเชื้อสิว ลดการเกิดสิวซ้ำที่จุดเดิมได้ และโปรแกรมรักษาสิว ลดการทายารักษาสิว อย่าง Acne Resize ที่จะทำให้ใบหน้าเกิดสิวลดลง ไม่ตกสะเก็ดและไม่ทำให้หน้าบางค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
1. สิวไม่มีหัว กี่วันถึงจะหาย
ระยะเวลาในการหายของสิวไม่มีหัว สิวอุดตันไม่มีหัวขึ้นอยู่กับความรุนแรงและการดูแลรักษา โดยทั่วไปอาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ หากได้รับการรักษาที่เหมาะสม แต่หากเป็นสิวอักเสบรุนแรงอาจใช้เวลานานเป็นเดือน ดังนั้น การดูแลตัวเอง หรือ เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นค่ะ
2. ทำยังไงให้สิวไม่มีหัวยุบ
เพื่อให้สิวไม่มีหัวยุบเร็วขึ้น ควรปฏิบัติดังนี้
- ประคบเย็นเพื่อลดการอักเสบ
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid, Benzoyl peroxide หรือ Retinol
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือบีบสิว
- รักษาความสะอาดของผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
3. สิวแบบไหนที่ควรไปหาหมอ
ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเมื่อพบสิวในลักษณะนี้ค่ะ
- สิวอักเสบรุนแรง เจ็บปวด หรือบวมมาก
- สิวที่เป็นเรื้อรังไม่หายด้วยการรักษาทั่วไป
- สิวที่เกิดขึ้นพร้อมกับอาการผิดปกติอื่น ๆ
- สิวที่ทิ้งรอยแผลเป็นหรือรอยดำ
- สิวที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิต
ซึ่งการพบแพทย์เร็วจะช่วยป้องกันการลุกลามและลดโอกาสการเกิดแผลเป็นค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รางวัล ArokaGO Star ระดับ 5 ดาว ประจำปี 2567
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว
เจาะลึก 3 โปรแกรมการรักษาสิวจากต้นตอ ปี 2025
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว
กดสิวอย่างปลอดภัย ต้อง Sterile
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว