
การรักษารอยสิวเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลใจ เพราะรอยสิวนอกจากจะทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนแล้วยังส่งผลต่อความมั่นใจอีกด้วย ในบทความนี้ หมอแนทจะพาคุณไปรู้สาเหตุของรอยสิว และวิธีรักษารอยสิวอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งวิธีป้องกันไม่ให้รอยสิวเกิดขึ้นอีก

รอยสิวเกิดจากอะไร
รอยสิวเกิดจากกระบวนการซ่อมแซมบาดแผลของผิวหนังที่เกิดจากสิว เมื่อสิวหาย ผิวหนังที่เกิดการอักเสบอาจสร้างเม็ดสีเมลานินมากขึ้น ทำให้เกิดรอยดำจากสิว หรือสิวที่มีการอักเสบลึกสามารถทำให้เกิดรอยแผลเป็นหรือหลุมสิวได้

ประเภทของรอยสิว
ประเภทของรอยสิว สามารถแบ่งได้ตามลักษณะและอาการ ดังนี้
รอยแดงจากสิว (Post – Inflammatory Erythema)
รอยแดงจากสิว รอยสิวไม่หายสักที เกิดจากการฟื้นฟูการอักเสบของสิว มีการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้หลอดเลือดใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัว ทำให้เกิดรอยแดงต่าง ๆ ตามมา
รอยดำจากสิว (Post – Inflammatory Hyperpigmentation)
รอยดำจากสิว เกิดจากการที่ผิวหนังกระตุ้นให้เมลาโนไซต์ (Melanocytes) ผลิตเมลานินมากกว่าปกติ ทำให้เกิดเป็นรอยสีดำหรือน้ำตาล รอยดำจากสิวสามารถอยู่ได้นานหลายเดือนหากไม่ได้รับการรักษา
รอยหลุมสิว (Atrophic Scars)
รอยหลุมสิว เป็นรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบเป็นส่วนใหญ่ เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้เกิดหลุมลึกและตื้น ผิวหนังไม่เรียบเนียน

วิธีรักษารอยสิว
รอยสิวรักษายังไง? วิธีรักษารอยสิวให้จางไว เห็นผลเร็วสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณและความรุนแรงของสิวที่เกิดขึ้น
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพผิวและลดการอักเสบของสิว ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ร่างกายมีเวลาฟื้นฟูผิวอย่างเต็มที่ และรักษารอยแดงจากสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. หลีกเลี่ยงการแกะสิว หรือบีบสิว
การแกะหรือบีบสิวจะทำให้ผิวหนังเกิดรอยสิวได้ การหลีกเลี่ยงการแกะ แคะ บีบ หรือสัมผัสหน้าบ่อย ๆ จะเป็นวิธีลดรอยสิวเบื้องต้น และใช้วิธีการรักษาสิวอื่น ๆ เช่น การรับประทานยาแทนการบีบสิว เป็นต้น
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ควรรับประทานผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อช่วยในการฟื้นฟูผิว และอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูง เพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวและลดการอักเสบของผิวหนัง
4. รับประทานวิตามินเสริม
วิตามินเสริมเช่น วิตามินซี วิตามินอี และสังกะสี มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิวและลดรอยสิวได้ การรับประทานวิตามินเสริมควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้รับปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย
5. ทาครีมลดรอยสิว
การใช้ครีมลดรอยสิวที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน เช่น วิตามินซี หรือไนอาซินาไมด์ จะช่วยให้รอยดำจางลงและผิวดูกระจ่างใสขึ้น
6. สครับหน้าลดรอยแดงจากสิว
การสครับหน้าเบา ๆ ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดรอยแดงจากสิว แต่ควรระวังไม่สครับแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแย่ลง อีกทั้งควรเลือกผลิตภัณฑ์สครับที่เหมาะสมกับสภาพผิว
7. พอกสมุนไพร
การพอกหน้าด้วยสมุนไพรเช่น ขมิ้นชัน ว่านหางจระเข้ หรือมะขามเปียก ช่วยลดการอักเสบและรอยแดงจากสิว สมุนไพรเหล่านี้มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูสภาพผิวและลดรอยสิวได้ดี
8. ทำเลเซอร์รอยสิว
การทำเลเซอร์สิวช่วยลดรอยสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะรอยแผลเป็นที่ลึก การทำเลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และปรับผิวให้เรียบเนียน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีการทำเลเซอร์ที่เหมาะสม
9. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
หากรอยสิวไม่หายหรือมีความรุนแรงมากจนรักษาด้วยตนเองไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม เพราะแพทย์ผิวหนังสามารถแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาของคุณได้อย่างตรงจุด

วิธีป้องกันรอยสิว
- ให้รักษาสิวทันที ไม่ควรปล่อยให้สิวอักเสบเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้เกิดรอยสิวได้ การใช้ยาหรือครีมที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์หรือกรดซาลิไซลิกสามารถช่วยลดการอักเสบของสิวได้
- หลีกเลี่ยงการบีบสิว เพราะการบีบสิวจะทำให้ผิวเป็นรอย
- แสงแดดสามารถทำให้รอยสิวเข้มขึ้น การใช้ครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ที่สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน และควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป
- ล้างหน้าให้สะอาดและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายและไม่ทำให้ผิวแห้งหรือมันจนเกินไป
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น อาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญอย่าง วิตามินซี วิตามินอี และสังกะสี สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวและลดการอักเสบของผิวหนัง
เลเซอร์รอยสิวที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic)
กำจัดรอยสิวที่กวนใจได้ที่ ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic) ด้วยโปรแกรมลดรอยสิวสร้างเซลล์ผิวใหม่ DAS และโปรแกรมศัลยกรรมกวาดตัดพังผืดหลุมสิว Mass Surgery ของทางคลินิก

โปรแกรมลดรอยสิว สร้างเซลล์ผิวใหม่ DAS
โปรแกรมลดรอยสิว สร้างเซลล์ผิวใหม่ DAS ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic) เป็นวิธีลดรอยสิว รักษารอยสิวและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพด้วยเทคโนโลยีการสกัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดจากเกล็ดเลือดคุณภาพสูง (Platelets growth factor) ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการแพ้ เนื่องจากใช้เลือดของคนไข้ในการรักษาค่ะ
โปรแกรมศัลยกรรมกวาดตัดพังผืดหลุมสิว Mass Surgery
ส่วนใครที่มีหลุมสิวที่ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน ไม่ว่าจะตื้นหรือลึก สามารถรักษาหลุมสิวได้ด้วยโปรแกรมศัลยกรรมกวาดตัดพังผืดหลุมสิว Mass Surgery โดยใช้เทคนิคการกวาดเลาะพังผืดหลุมสิว เทคนิคนี้จะเร่งสร้างเซลล์ผิวใหม่ ด้วยร่างกายของเราเอง ไม่ใช้พลังงานความร้อนที่ทำร้ายเซลล์ผิว ไม่เกิดการตกสะเก็ด และไม่มีแสบร้อนผิวค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
1. ทำยังไงให้รอยสิวหายภายใน 1 อาทิตย์
รักษารอยสิวด้วยการเลเซอร์รอยสิว สามารถเห็นผลได้ภายใน 1 อาทิตย์ รอยสิวจะค่อย ๆ จางลงไป และจะชัดขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณครั้งที่ 2 เป็นต้นไปค่ะ
2. รอยสิวกี่วันหาย
รอยสิวกี่วันหาย? รอยดําจากสิวกี่วันหาย? จริง ๆ ถ้ารอให้หายเอง ปกติรอยดำจากสิวจะจางลงภายใน 2-4 เดือน แต่ถ้าต้องการให้รอยสิวหายไปอย่างรวดเร็ว แนะนำให้ทำเลเซอร์จะเห็นผลชัดค่ะ
3. รอยสิวสามารถหายเองได้ไหม
โดยทั่วไปรอยสิวสามารถหายเองได้ อย่างไรก็ตาม การรอให้รอยสิวหายอาจจะใช้เวลานานนับเดือน แนะนำว่าให้ทำเลเซอร์เพราะเป็นวิธีรักษารอยดําจากสิวเร็วที่สุด เห็นผลได้ภายในไม่กี่วันค่ะ
4. รอยดําจากสิวรักษายังไง
รอยดําจากสิวรักษายังไง? สามารถทาครีมลดรอยดำ สครับผิว รับประทานวิตามินและอาหารเสริมได้ แต่หากรักษาด้วยตนเองไม่ให้ อาจจะต้องพึ่งการปรึกษาแพทย์และการทำหัตถการ เช่น เลเซอร์สิวค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รางวัล ArokaGO Star ระดับ 5 ดาว ประจำปี 2567
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว
เจาะลึก 3 โปรแกรมการรักษาสิวจากต้นตอ ปี 2025
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว
กดสิวอย่างปลอดภัย ต้อง Sterile
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว