รักษาฝ้าผิดวิธียิ่งรักษา ฝ้ายิ่งลาม

July, 17 2025

/ By Doctor NAT Clinic

รักษาฝ้าผิดวิธียิ่งรักษา ฝ้ายิ่งลาม

รักษาฝ้ามาหลายวิธี ยิ่งรักษาฝ้ายิ่งลาม
จนขาดความมั่นใจ

เคยไหมคะ… ตั้งใจรักษาฝ้าทุกวิธีที่มีคนแนะนำแต่ฝ้ากลับยิ่งลาม ยิ่งเข้มขึ้น ยิ่งกระจายกว่าเดิม ครีมก็ทาแล้ว เลเซอร์ก็ยิงมาแล้ว ยาทา ยากิน วิตามินก็ฉีดครบทุกสูตรแต่ฝ้ากลับ “ดื้อ” ขึ้นทุกครั้ง

ช่วงแรกดีขึ้นจนมีความหวัง…แต่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ฝ้ากลับเข้มขึ้นมาใหม่

ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่า ฝ้าที่เคยรักษา กำลังกลายเป็นฝ้าที่ควบคุมไม่ได้ — หมอแนทแนะนำให้อ่านบทความนี้เพราะนี่อาจเป็นครั้งแรก… ที่คุณจะเข้าใจว่า “ทำไมฝ้าถึงไม่หาย” และ ต้องรักษาแบบไหน ถึงจะหยุดฝ้าได้จริงและไม่ทิ้งผลข้างเคียงให้ปวดใจ

Table of Contents
รักษาฝ้าผิดวิธี ยิ่งรักษา ฝ้ายิ่งลาม
รักษาฝ้าผิดวิธี ยิ่งรักษา ฝ้ายิ่งลาม
รักษาฝ้าผิดวิธี ยิ่งรักษา ฝ้ายิ่งลาม

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT
ฝ้ามีกี่ประเภท

ฝ้ามีกี่ประเภท รักษายากมั้ย?

ฝ้าตื้น
เป็นฝ้าที่สามารถเห็นขอบเขตฝ้าชัดเจนบนหนังกำพร้า มีลักษณะสีน้ำตาลเข้ม และเนื่องจากเป็นฝ้าที่เกิดบนชั้นผิวหนังกำพร้า หรือผิวชั้นนอกทำให้รักษาง่ายกว่าฝ้าแบบอื่น

ฝ้าลึก
มีสีเทาอ่อน น้ำตาลอ่อน หรืออมม่วง เห็นขอบไม่ชัด เนื่องจากเกิดลึกลงไปบริเวณหนังแท้เป็นฝ้าที่รักษาให้หายได้ยาก


ฝ้าผสม
บางคนสามารถเป็นทั้งฝ้าลึกและฝ้าตื้น ทำให้เรียกว่าฝ้าผสมนั่นเอง ซึ่งการดูแลรักษาฝ้าแบบนี้ต้องใช้วิธีรักษาหลายแบบรวมกัน


ฝ้าเลือด
เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบนใบหน้าเนื่องจากผิวหนังรับ รังสีอัลตราไวโอเล็ต จากแสงแดดเป็นเวลานานบริเวณที่พบฝ้าเลือดได้มากที่สุด คือ บริเวณโหนกแก้มและสันจมูกรวมถึงมาจากการใช้เครื่องสำอางหรือยาที่มีส่วนผสมของ สเตียรอยด์ทำให้เส้นเลือดฝอยแตกและมีเลือดกระจุกบริเวณพังผืดใต้ผิวหนังชั้นลึก โดยฝ้าจะมีสีน้ำตาลแดง

อ้างอิงข้อมูล : Lueangarun S, Namboonlue C, Tempark T. Postinflammatory and rebound hyperpigmentation as a complication aftertreatment efficacy of telangiectatic melasma with 585 nanometers Q-switched Nd: YAG laser and 4% hydroquinone cream in skin phototypes III-V. J Cosmet Dermatol. 2021Jun;20(6):1700-1708. doi: 10.1111/jocd.13756

ที่มา : หนังสือ “ฝ้า (Melasma)” โดย สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2562

เปรียบเทียบวิธีการรักษาฝ้า

การรักษาฝ้าต้องรู้ชนิดของฝ้าที่แท้จริงและความลึกของฝ้า

ฝ้าแต่ละชนิดจะเกิดบนชั้นผิวและระดับความลึกที่ต่างกัน ที่ดอกเตอร์แนท คลินิก จะใช้ Melasma Lab สแกนผิวประเมินว่าเป็นฝ้าชนิดไหนและลึกแค่ไหนเพื่อออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ให้ตรงจุดและได้ประสิทธิภาพดี

ผลข้างเคียงจากการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์

ผลข้างเคียงจากการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์

เลเซอร์ที่รุนแรงเกินความจำเป็นอาจ “ทำลาย” เซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) จนเกิดเป็นรอยด่างขาวไม่สม่ำเสมอที่เรียกว่า Mottled Hypopigmentation รอยขาวด่างๆ ที่เหมือนสีผิวหลุดออกมาจากผิวนี้ยากที่จะรักษาให้กลับมาเหมือนเดิม
ที่มา : หนังสือ “ฝ้า (Melasma)” โดย สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2562

หยุดใช้ความร้อนที่สะสมมากเกินไปในการรักษาฝ้า

หยุดใช้ความร้อนที่สะสมมากเกินไปในการรักษาฝ้า

เยื่อกั้นผิว ( Basement Membrane ) คือ ด่านสำคัญที่คอยปกป้องผิวเมื่อถูกทำลายจากพลังงานความร้อนที่สะสมมากเกินไป เยื่อกั้นผิวจะขาด ส่งผลให้ Melanocyte ห้อยตัวลงลึกและผลิตเม็ดสีฝังแน่นยิ่งขึ้น

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT
โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน

โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน

หมอแนทเลือกและคิดค้นเพื่อรักษาฝ้าโดยไม่พึ่งความร้อน โดยใช้วิธีการกระตุ้นคอลลาเจนทุกชั้นผิว สร้างเซลล์ผิวใหม่ ไม่ทำให้ผิวบาง ไม่ดูดกลืนแสง ไม่ต้องทนแสบร้อน ไม่ต้องเสี่ยงหน้าไหม้ เป็นการรักษามาจากต้นตอ ไม่ใช่การกลบร่องรอยและการโบกรองพื้นหนา ก็ไม่ได้แก้ปัญหาฝ้าได้จริงหลักการง่ายๆ ของหมอแนทมีแค่สามข้อคือ…

ลดการทำงานของเซลล์ Melanocyte
เร่งกำจัดเม็ดสี Melanin ส่วนเกิน
และ…ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

โดยใช้ Melasma Lab มาช่วยตรวจหาสาเหตุฝ้าได้ตรงจุด
แยกชนิดของฝ้า และรอยดำ ได้อย่างชัดเจน แม่นยำ
ที่สำคัญที่สุด…คือการไม่ใช้ความร้อนกับผิวที่อ่อนไหว
หากเรารู้สาเหตุที่แท้จริง ก็ไม่จำเป็นต้องมาไล่ยิงเม็ดสีทีละเม็ด

ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ปัญหาฝ้าทุกชนิด ทุกชั้นผิวด้วย Melasma Lab เพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอนที่ 1
วิเคราะห์ปัญหาฝ้าทุกชนิดทุกชั้นผิวด้วย Melasma Lab เพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล

การรักษาต้องมีการสแกนผิวประเมินว่าเป็นฝ้าชนิดไหน และลึกแค่ไหนด้วยโปรแกรม Melasma Lab ซึ่งเป็นการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล

ชนิดของฝ้า
ขั้นตอนที่ 2 กำจัดเม็ดสีเมลานินส่วนเกินอย่างตรงจุด

ขั้นตอนที่ 2
กำจัดเม็ดสีเมลานินส่วนเกินอย่างตรงจุด

ฝังตัวยาลงสู่ใต้ชั้นผิวหนังบริเวณที่เป็นฝ้า เพื่อลดการทำงานของเมลาโนไซต์และกำจัดเม็ดสีส่วนเกินได้อย่างตรงจุด สามารถรักษาได้ทั้งตื้น กลาง และลึก ช่วยลดฝ้าชนิดและประเภทต่างๆ ได้อย่างตรงจุด โดยตัวยาที่ถูกออกแบบเฉพาะบุคคลให้ตรงกับชนิดและความลึกของฝ้า ช่วยฟื้นฟูผิวจากต้นตอปัญหา

ขั้นตอนที่ 3 ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

ขั้นตอนที่ 3
ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

ฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเติมสารอาหารผิว ฟื้นฟูผิวตั้งแต่ชั้นลึกจนถึงชั้นผิวที่มองเห็นได้ ลดปัญหาผิวคล้ำเสียช่วยให้ผิวกลับมาดูสุขภาพดี และใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ทำไมต้องรักษาฝ้าที่ Doctor NAT Clinic

ทำไมต้องรักษาฝ้าที่ Doctor NAT Clinic

หมอแนทไม่อยากเห็นคุณเจ็บแบบไม่จบ!
เจ็บ…กับฝ้าที่ยังอยู่กับหน้า
ไปแล้วก็กลับเป็นใหม่ และยิ่งไปกันใหญ่
เจ็บ…กับผิว ที่แสบร้อน เพราะโดนความร้อนซ้ำๆ
เจ็บ…กับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า
หมอแนทอยากให้การเจอกันของเรา
ทำให้คุณจบ…แบบไม่เจ็บ!

โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน MISS
รักษาได้ตรงจุด ยับยั้งการกระจายตัวของฝ้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
เน้นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่รักษา ไม่มีการรักษาเป็นคอร์ส
เหมาะกับคนไม่มีเวลาเข้าคลินิก

  • เหมาะกับผู้ที่มีฝ้าจากการผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป
  • เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถลดฝ้าด้วยวิธีอื่น ๆ ได้
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดฝ้าที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดดบ่อย ๆ
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดฝ้าอย่างรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาไม่นาน
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้า
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมากที่จะช่วยให้การรักษาฝ้าออกมามีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากผลข้างเคียงได้ ดังนั้นควรเตรียมตัวก่อนการทำ โดยสามารถเตรียมตัวได้ ดังนี้
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาฝ้าและสุขภาพผิว เพื่อวางแผนการดูแลรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิว
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน หรือถ้าหากจำเป็นต้องสัมผัสแดด ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง เพื่อปกป้องผิวก่อนการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน เพื่อป้องกันการกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด อย่างน้อย 3-5 วันก่อนการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพ้หรือการระคายเคือง
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหยุดรับประทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด แต่ทั้งนี้การหยุดรับประทานยา ควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง เพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคืองหลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ ผลัดเซลล์ผิว หรือทรีตเมนต์ ที่อาจทำให้ผิวบางก่อนการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
หลังจากการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรดูแลตัวเอง ดังนี้
  • หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดๆ เช่น ทะเล ภูเขา ดำน้ำ ตีกอล์ฟ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก หลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
  • หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วง 3 วันแรกหลังการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อหรือการระคายเคืองผิว
  • หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรประคบเย็นต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดอาการบวม แดงหลังทำการรักษา
  • หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน หลี่กเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงทั่วไปที่พบได้ หลังการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
  • อาการบวมหรือรอยแดงหลังทำหัตถการ โดยอาการจะบรรเทาลงใน 2-3 วัน
  • รอยช้ำที่เกิดจากโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน อาการจะค่อยๆดีขึ้นประมาณ 3- 7 วัน
โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน โดยทั่วไปแล้วสามารถเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลา 6-8 สัปดาห์หลังการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน โดยจุดด่างดำและรอยฝ้า ความเข้มจะค่อย ๆ ลดลง แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างออกไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่ปัจจัยต่าง ๆ เฉพาะบุคคล เช่น สภาพผิว ความรุนแรงของฝ้า หรือการดูแลผิวหน้าหลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
การทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน อาจจะต้องทำซ้ำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากการเกิดฝ้ามีสาเหตุทั้งจากปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก โดยจำนวนครั้งในการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ในแต่ละบุคคลนั้นจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของฝ้า ซึ่งจำนวนครั้งที่แน่ชัดในแต่ละบุคคลจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
การรักษาฝ้าด้วย โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน สามารถให้ผลลัพธ์ยาวนานได้ หากทำต่อเนื่อง ซึ่งหากดูแลผิวได้อย่างเหมาะสม ผลลัพธ์หลังการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน สามารถอยู่ได้ยาวนาน แต่ระยะเวลาในการคงอยู่ของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายปัจจัย ดังนี้
  • การสัมผัสแสงแดด ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยการกระตุ้นหลักที่ทำให้เกิดฝ้ากลับมาซ้ำได้ แม้จะผ่านการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อนมาแล้ว หากไม่มีการดูแลป้องกันผิวที่เหมาะสม ซึ่งปัจจัยนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • การดูแลผิวหลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์การดูแลรักษาอยู่ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
  • การทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อนซ้ำ แม้ผลลัพธ์หลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน จะสามารถอยู่ได้ยาวนาน แต่ก็จำเป็นเป็นอย่างมากในการทำซ้ำปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อช่วยรักษาความสม่ำเสมอของสีผิว และลดโอกาสที่ฝ้าจะกลับมา
  • ปัจจัยภายในร่างกาย ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยจากภายในร่างกายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ มักเกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย ในผู้ที่เป็นกรณีแพทย์อาจแนะนำการลดฝ้าวิธีการอื่นๆ ร่วมด้วย
ปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อผลลัพธ์หลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อนลดฝ้าได้ ซึ่งในแต่ละบุคคลจะได้ผลลัพธ์หลังการทำที่ต่างกัน โดยการดูแลผิวอย่างต่อเนื่องจะช่วยยืดระยะเวลาของผลลัพธ์และป้องกันการเกิดฝ้าในอนาคตหลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ได้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT