สิวเสี้ยน สิวขนาดเล็กที่ไม่ได้มีความรุนแรง แต่ก็มีผลในด้านของความงามมากทีเดียว เพราะจะทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน มองเห็นรูขุมขนอย่างชัดเจน ซึ่งสิวชนิดนี้เกิดจากอะไร มีลักษณะแบบไหน และมีวิธีการรักษาป้องกันได้อย่างไร วันนี้ Dr.Nat Clinic เราจะมาบอกให้รู้กัน
สิวเสี้ยนคืออะไร
สิวเสี้ยนเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน เมื่อน้ำมันส่วนเกิน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และแบคทีเรียสะสมกันอยู่ภายในรูขุมขน ทำให้เกิดหัวสิวสีดำเล็ก ๆ ซึ่งเราเรียกว่าสิวเสี้ยน บริเวณที่พบสิวเสี้ยนบ่อยครั้ง ได้แก่ จมูก คาง และหน้าผาก แม้ว่าสิวเสี้ยนจะไม่ทำให้เจ็บปวด แต่ก็ส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนและขาดความสดใส
สิวเสี้ยนมีลักษณะอย่างไร
สิวเสี้ยนมีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ สีดำหรือสีขาว ขนาดไม่เกิน 1 มิลลิเมตร มักพบได้ตามบริเวณที่มีต่อมไขมันเยอะ ๆ เช่น จมูก คาง หน้าผาก และหลัง ซึ่งสิวเสี้ยนเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ไขมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อสัมผัสจะรู้สึกสาก ๆ และอาจมีหัวสิวเล็ก ๆ ยื่นออกมาจากรูขุมขน
สิวเสี้ยนเกิดจากอะไร
การเกิดสิวเสี้ยน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุที่มากระตุ้น ได้แก่
- การผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้รูขุมขนอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวเสี้ยน
- การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หากเซลล์ผิวไม่ได้ถูกผลัดออกอย่างเหมาะสม จะสะสมอยู่ในรูขุมขนและทำให้เกิดสิวเสี้ยนได้
- กรรมพันธุ์ ปัจจัยทางพันธุกรรมส่งผลให้บางคน มีแนวโน้มที่จะเกิดสิวเสี้ยนได้ง่ายมากกว่า
- การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความมันส่วนเกินจนทำให้อุดตันในรูขุมขนได้
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยรุ่นหรือในช่วงประจำเดือนมา จะกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนผิวเพิ่มขึ้น จึงก่อให้เกิดการอุดตันได้ในที่สุด
5 วิธีกำจัดสิวเสี้ยนด้วยตัวเอง
สิวเสี้ยนสามารถรักษาได้หลายวิธี โดยมี 5 วิธีรักษาสิวเสี้ยนยอดนิยม ดังนี้
1. ใช้แหนบ
การใช้แหนบเป็นวิธีที่ง่ายและเบสิคในการกำจัดสิวเสี้ยน ทำได้โดยการใช้แหนบที่มีปลายแหลม เพื่อหนีบสิวเสี้ยนออกมา โดยก่อนทำควรทำความสะอาดใบหน้าและมือให้เรียบร้อย เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ หลังจากนั้น ให้ใช้แหนบจับสิวเสี้ยนเบา ๆ และดึงออก วิธีนี้จะช่วยลดความเจ็บปวดและไม่ทำให้ผิวบวมแดงมากนัก
2. ใช้เครื่องกดสิว
เครื่องกดสิวถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดสิวเสี้ยนอย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดาย โดยไม่ทำให้ผิวได้รับความเสียหายหรือมีรอยแดง สามารถใช้เครื่องกดสิวได้ทั้งในบริเวณจมูก คาง หรือหน้าผาก โดยควรทำการดูดสิวเสี้ยนหลังการทำความสะอาดผิวหน้าและเครื่องมือก่อนการใช้งาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
3. ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน
แผ่นลอกสิวเสี้ยนเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งทำได้ง่ายเพียงแปะแผ่นลอกสิวบนบริเวณที่มีสิวเสี้ยนและรอสักพัก จากนั้นดึงออกอย่างรวดเร็ว จะทำให้หัวสิวหลุดออกมาด้วย แต่ไม่ควรทำบ่อยเกินไป เพราะอาจส่งผลให้รูขุมขนกว้างได้
4. ใช้สกินแคร์ลดสิวเสี้ยน
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยการเกิดลดสิวเสี้ยน เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่ช่วยทำความสะอาด พร้อมลดความมันบนใบหน้าและช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอล (Retinol) ซึ่งช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รูขุมขนไม่อุดตัน และลดการเกิดสิวเสี้ยนในอนาคตได้ดี
5. สครับผิว
การสครับผิวเป็นวิธีช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกออกจากผิว โดยควรเลือกใช้สครับที่มีประสิทธิภาพและอ่อนโยน เพื่อไม่ทำให้ผิวหนังระคายเคือง ซึ่งการสครับผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการอุดตันในรูขุมขน แถมช่วยป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนขึ้นใหม่ได้ดีทีเดียวล่ะ
5 วิธีกำจัดสิวเสี้ยนด้วยหัตถการและเครื่องมือแพทย์
สำหรับใครที่ทำตามวิธีข้างต้นแล้วสิวเสี้ยนไม่หายสักที หรือต้องการวิธีที่ได้ผลลัพธ์แบบเร่งด่วน Dr.Nat Clinic ก็ขอแนะนำ 5 วิธีรักษาสิวเสี้ยน ด้วยหัตถการและเครื่องมือแพทย์ ดังนี้เลย รับรองเห็นผลชัวร์
1. ใช้เครื่องดูดสิว
เครื่องดูดสิวเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยดูดเอาสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากรูขุมขน โดยการสั่นสะเทือนและควบคุมแรงดูด ทำให้สามารถขจัดความมันและลดการเกิดสิวเสี้ยนได้ วิธีนี้จะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้
2. ลอกสิวเสี้ยนด้วยกรดผลไม้
การรักษาสิวเสี้ยนด้วยกรดผลไม้ เช่น กรด AHA หรือ BHA สามารถช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก วิธีนี้จะช่วยให้สิวเสี้ยนลดน้อยลงได้จริงและยังทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม แต่อาจเกิดการระคายเคืองได้ในคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ดังนั้นจึงควรทำหัตถการนี้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
3. เลเซอร์สิวเสี้ยน
การรักษาสิวเสี้ยนด้วยเลเซอร์นั้นจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความเรียบเนียน และลดขนาดรูขุมขนได้ จึงช่วยลดการสร้างความมันส่วนเกิน ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวนั่นเอง
4. ฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใสเป็นวิธีที่นำสารอาหารและวิตามินเข้าสู่ผิวชั้นใน ซึ่งจะช่วยให้รูขุมขนกระชับ และลดโอกาสการเกิดสิวเสี้ยน พร้อมทั้งบำรุงผิวให้แข็งแรง แถมได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจสุด ๆ
5. ฉีดรีจูรัน
การฉีดรีจูรัน ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก โดยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นและความกระชับของผิว ช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น ลดการอุดตันของสิ่งสกปรกและไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวเสี้ยน นอกจากนี้รีจูรันยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำได้อีกด้วย
สรุปบทความ
ใครที่มีปัญหาสิวเสี้ยน ลองใช้วิธีเหล่านี้ในการรักษากันดู จะช่วยให้คุณหมดกังวลกับปัญหาสิวได้ แถมมีผิวที่สวยใส เรียบเนียน และเปล่งประกายมากขึ้น แต่หากใครมีปัญหารอยสิวร่วมด้วย แนะนำให้ลองมารักษารอยสิวที่ Dr.Nat Clinic เลย ที่นี่เรามีบริการครบวงจรเรื่องการรักษาสิว โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยให้คุณกลับมามีความมั่นใจในการเผยผิวใสได้อีกครั้งอย่างแน่นอน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ริ้วรอยบนใบหน้า แก้ไขได้ไม่ยาก
ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากอะไร? แก้ไขยังไงดี? เผยสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอย พร้อมวิธีดูแลผิวอย่างถูกต้อง เพื่อการป้องกันและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ อ่านต่อเลย!
ไขข้อสงสัย Hifu ต้องทำบ่อยแค่ไหน
HIFU ทำได้บ่อยแค่ไหน? อยากหน้าเด็กไว ๆ ต้องทำกี่ครั้ง? เผยเคล็ดลับการทำ HIFU ให้เห็นผลเร็วที่สุด ช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์ได้อย่างปลอดภัย อ่านเลย!
รวมเรื่องต้องรู้ของสิวเม็ดข้าวสาร
สิวเม็ดข้าวสาร คืออะไร? รู้จักสิวเม็ดเล็ก ๆ ที่น่ารำคาญ พร้อมวิธีสังเกตและสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวเม็ดข้าวสาร และวิธีดูแลผิวเพื่อป้องกันการเกิดสิวชนิดนี้ได้ที่นี่เลย!