
ความร้อน…วงจรรักษาฝ้าที่ไม่มีวันจบสิ้น
“หมอแนทเห็นเคสแบบนี้บ่อยมากค่ะ…” หลายคนพอเลเซอร์ไประยะนึงฝ้าเข้มขึ้น จึงเลือกทำเลเซอร์แรงขึ้นอีก เพราะคิดว่า “อยากจัดการฝ้าให้อยู่หมัด”
แต่จริง ๆ แล้ว… ผิวของเรากลับรู้สึกเหมือนกำลังถูกทำร้าย เซลล์เม็ดสีเลยรีบผลิตเมลานินออกมามากขึ้นเพื่อป้องกันตัว ส่งผลให้ฝ้ายิ่งเข้ม ยิ่งรักษาด้วยความร้อน… ก็ยิ่งเข้าใกล้วงจรฝ้าซ้ำซากแบบไม่รู้ตัว
หมอแนทจึงเลือกใช้วิธีที่ไม่ใช้ความร้อน ไม่ใช้เลเซอร์ เพราะฝ้าไม่ควรถูก “บังคับให้หาย” ด้วยวิธีรุนแรง แต่ควรถูก “วิเคราะห์ด้วยความเข้าใจ” และ “จัดการให้ตรงจุด” เท่านั้น
ที่มา : หนังสือ “ฝ้า (Melasma)” โดย สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2562

การทำเลเซอร์ Picosecond ไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำให้ฝ้าจางลงเมื่อเปรียบเทียบกับการทายาครีม 2% Hydroquinone เพียงอย่างเดียว
ผลงานวิจัยล่าสุดจากศูนย์เลเซอร์ผิวหนังศิริราชตีพิมพ์ในวารสารของสมาคมเลเซอร์ทางการแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (Lasers in Surgery and Medicine) รายงานว่า “การทำเลเซอร์ Picosecond ไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำให้ฝ้าจางลงเมื่อเปรียบเทียบกับการทายาครีม 2% Hydroquinone เพียงอย่างเดียว”
อ่านบทความสาเหตุและชนิดของฝ้า คลิกเลย
อ้างอิงจาก : Prof Dr Woraphong/ศ.นพ.วรพงษ์ มหัสเกียรติ. (2022, November 8). ผลงานวิจัยล่าสุดจากศูนย์เลเซอร์ผิวหนังศิริราช. Facebook. https://www.facebook.com/DrWoraphong

โปรแกรม MISS ( Melasma Insight Skin Solution )
รักษาฝ้าอย่างแม่นยำไม่ใช้ความร้อน
วิเคราะห์ก่อนรักษาฝังยาเก็บฝ้าทุกชั้นผิวในหนึ่งครั้ง
หัวใจสำคัญของการรักษาฝ้าให้ได้ผลจริงและยั่งยืน ไม่ใช่การ “สู้” กับฝ้าแบบเดิม ๆ ด้วยวิธีรุนแรง แต่คือการ “เข้าใจ” โครงสร้างผิวและปัญหาฝ้าอย่างลึกซึ้ง รู้ว่าฝ้าเกิดจากอะไร อยู่ลึกแค่ไหน และตอบสนองต่ออะไรได้ดีที่สุด
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่โปรแกรม MISS ถูกออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนมุมมองการรักษาฝ้าแบบเดิม ๆ ให้กลายเป็นการดูแลผิวแบบเฉพาะบุคคล ไม่ต้องเดา ไม่ใช้เลเซอร์ ไม่ทำร้ายผิว — แต่ลงลึก ตรงจุด และจบในครั้งเดียว

ขั้นตอนที่ 1
Scan Before Treat – สแกนฝ้าก่อนรักษา
ก่อนจะเริ่มรักษาฝ้าให้คนไข้ทุกเคส ต้องผ่านการสแกนวิเคราะห์แบบละเอียดด้วยโปรแกรม Melasma Lab เพื่อให้รู้แน่ชัดว่า… คุณเป็นฝ้าชนิดไหน อยู่ลึกถึงชั้นไหน ข้อมูลจากโปรแกรม Melasma Lab จะถูกใช้ในการ ประเมินระดับความรุนแรงและวางแผนการรักษาแบบตรงจุด เฉพาะพื้นที่ที่มีเม็ดสีผิดปกติจริง ๆ


ขั้นตอนที่ 2
PREP Skin — เตรียมชั้นผิวก่อนฝังยา
ก่อนจะฝังยาเข้าสู่ชั้นผิว หมอแนทจะเริ่มด้วยการ ปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการรักษา ด้วยเทคนิคเฉพาะของ Doctor NAT Clinic ที่ช่วยเตรียมผิว อย่างอ่อนโยน ช่วยให้ผิวรับตัวยาได้ลึกและแม่นยำยิ่งขึ้น
- ลดอาการเจ็บหรือแสบจากตัวยา
- ไม่ต้องทนแสบแบบการฉีดฝ้าทั่วหน้าแบบเดิม
- เพิ่มประสิทธิภาพการซึมลึกของยาแต่ละจุด

ขั้นตอนที่ 3
Targeted Deep-Injection — ฝังยาเข้าชั้นผิวเก็บฝ้าตามผล Melasma lab
หลังจากรู้ตำแหน่งฝ้าที่แท้จริงจากผล Melasma Lab หมอแนทจะใช้เทคนิคการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล “ฝังยาตามผล Melasma Lab” ลงลึกเข้าสู่ชั้นผิวโดยใช้ ตัวยาที่ออกแบบเฉพาะบุคคลของ Doctor Nat Clinic
- ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน
- ปรับสีผิวให้สว่าง ดูสม่ำเสมอ
- กระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิวจากภายใน
ฝังตัวยาบริเวณที่มีเม็ดสีผิดปกติตามผลจากโปรแกรม Melasma Lab ไม่ต้องฉีดทั่วหน้าแบบเดิม จึงแม่นยำกว่า อ่อนโยนกว่า และเห็นผลไวกว่า โดยไม่ต้องใช้ความร้อน ไม่ต้องใช้เลเซอร์
ไม่เสี่ยงผิวบาง ไม่ต้องเจอความร้อน ไม่ตกสะเก็ด ไม่มีกลิ่นไหม้ พร้อมฟื้นฟูเซลล์ผิวระดับลึก

ขั้นตอนที่ 4
Micro-Infusion- ผลักยาเคลียร์ฝ้าตื้น
เพื่อจัดการกับ ฝ้าตื้น Doctor NAT Clinic จะใช้เทคนิค Micro-Infusion ผลักตัวยาลงสู่ผิวชั้นบน ช่วยให้ผิวเปิดรับสารออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนที่ 5
One Session, Triple-Layer Result
รักษาหนึ่งครั้ง เก็บครบทุกชั้นผิว
โปรแกรม MISS ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บฝ้าให้ครบทุกระดับชั้นผิว ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล โดยจะวางตัวยาให้ “เจาะจงและกระจายตัว” ตามผลจากโปรแกรม Melasma Lab
- เน้นการจัดการเม็ดสีเมลานินทั้งใน Epidermis, DEJ และ Dermis
- ยาออกฤทธิ์แบบกระจายตัวตามโครงสร้างผิวที่ตรวจได้จาก Melasma Lab
- ไม่ต้องใช้ความร้อน จึงลดผลข้างเคียงจากอาการผิวไหม้เบิร์น แสบร้อน ตกสะเก็ด






ทำไมต้องรักษาฝ้าที่ Doctor NAT Clinic
เพราะที่ Doctor NAT Clinic ไม่ได้มองแค่ “รอยฝ้าบนผิว” แต่เราวิเคราะห์ให้ลึกถึงสาเหตุของฝ้าในแต่ละคน เพื่อวางแผนรักษาเฉพาะบุคคล ที่เห็นผลจริง ไม่ต้องลองผิดลองถูก โปรแกรม MISS จึงไม่ใช่แค่การรักษาฝ้า แต่คือการ “วิเคราะห์ – ปรับลึก – ป้องกันฝ้าใหม่” เพราะเราเชื่อว่า… ผิวที่ดี ไม่ควรต้องถูกทำร้ายซ้ำ ๆ ด้วยวิธีเดิม ๆ
ถ้าคุณเคยผิดหวังกับการรักษาฝ้ามาหลายครั้ง หมอแนทและทีม มั่นในที่จะรักษาฝ้าล้ำลึกตรงจุดโดยไม่เลี้ยงไข้
- เหมาะกับผู้ที่มีฝ้าจากการผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป
- เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถลดฝ้าด้วยวิธีอื่น ๆ ได้
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดฝ้าที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดดบ่อย ๆ
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดฝ้าอย่างรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาไม่นาน
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้า
- ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาฝ้าและสุขภาพผิว เพื่อวางแผนการดูแลรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิว
- ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน หรือถ้าหากจำเป็นต้องสัมผัสแดด ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง เพื่อปกป้องผิวก่อนการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน เพื่อป้องกันการกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน
- ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด อย่างน้อย 3-5 วันก่อนการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพ้หรือการระคายเคือง
- ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหยุดรับประทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด แต่ทั้งนี้การหยุดรับประทานยา ควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์
- ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง เพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคืองหลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
- ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ ผลัดเซลล์ผิว หรือทรีตเมนต์ ที่อาจทำให้ผิวบางก่อนการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดๆ เช่น ทะเล ภูเขา ดำน้ำ ตีกอล์ฟ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก หลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
- หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วง 3 วันแรกหลังการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อหรือการระคายเคืองผิว
- หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรประคบเย็นต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดอาการบวม แดงหลังทำการรักษา
- หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน หลี่กเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- อาการบวมหรือรอยแดงหลังทำหัตถการ โดยอาการจะบรรเทาลงใน 2-3 วัน
- รอยช้ำที่เกิดจากโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน อาการจะค่อยๆดีขึ้นประมาณ 3- 7 วัน
- การสัมผัสแสงแดด ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยการกระตุ้นหลักที่ทำให้เกิดฝ้ากลับมาซ้ำได้ แม้จะผ่านการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อนมาแล้ว หากไม่มีการดูแลป้องกันผิวที่เหมาะสม ซึ่งปัจจัยนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
- การดูแลผิวหลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์การดูแลรักษาอยู่ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
- การทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อนซ้ำ แม้ผลลัพธ์หลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน จะสามารถอยู่ได้ยาวนาน แต่ก็จำเป็นเป็นอย่างมากในการทำซ้ำปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อช่วยรักษาความสม่ำเสมอของสีผิว และลดโอกาสที่ฝ้าจะกลับมา
- ปัจจัยภายในร่างกาย ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยจากภายในร่างกายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ มักเกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย ในผู้ที่เป็นกรณีแพทย์อาจแนะนำการลดฝ้าวิธีการอื่นๆ ร่วมด้วย