ฝ้า กระ กรรมพันธุ์ : สาเหตุ ลักษณะ และวิธีรักษา

September, 8 2025

/ By Doctor NAT Clinic

ลักษณะของฝ้า กระ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์

หลายคนอาจสงสัยว่า ฝ้าหรือกระที่เป็นอยู่ เกิดจากกรรมพันธุ์หรือเปล่า ? ถ้าพ่อแม่เป็นฝ้า แล้วลูกจะเป็นตามไหม ? คำถามเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของทุกคนที่มีปัญหาฝ้าหรือกระบนใบหน้า บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจปัญหาผิวชนิดนี้ มาดูกันว่า ฝ้า กระ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ แตกต่างจากฝ้าประเภทอื่นอย่างไร และหากเป็นแล้ว จะมีทางรักษาให้ดีขึ้นได้หรือไม่

Table of Contents

ฝ้าและกระ ต่างกันอย่างไร ?

• ฝ้า (Melasma)

ฝ้า คือ ปัญหาผิวที่เกิดจากการผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ที่มากเกินไปในชั้นผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่มีการสัมผัสแสงแดดบ่อย ๆ เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก และเหนือริมฝีปาก ทำให้บริเวณเหล่านั้นเกิดเป็นปื้นสีน้ำตาลเข้มหรือเทา (Hyperpigmentation) และบางครั้งอาจมีสีที่แตกต่างกันเล็กน้อย ตามความลึกของฝ้า

• กระ (Freckles / Lentigines)

กระ คือ จุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ ที่มักพบในบริเวณโหนกแก้ม จมูก และส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า โดยมีลักษณะเป็นจุดกลม ๆ ขนาดเล็ก หรือบางครั้งอาจกระจายตัวทั่วทั้งใบหน้า โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวขาว ซึ่งกระมักเกิดจากการสัมผัสแสงแดดโดยตรง และการสะสมของเม็ดสีเมลานินในบริเวณนั้น ๆ

กรรมพันธุ์มีผลต่อการเกิดฝ้า กระ จริงหรือ ?

“กรรมพันธุ์” มีบทบาทต่อการเกิด ฝ้า และ กระ โดยเฉพาะในกรณีที่พ่อแม่หรือญาติสายตรงมีประวัติเป็นฝ้าหรือกระ โอกาสที่ลูกหลานจะเป็นตามจะเพิ่มสูงขึ้น เพราะเซลล์เม็ดสี (Melanocyte) ของบางคนไวต่อแสงหรือการกระตุ้นมากเป็นพิเศษเพราะพันธุกรรม นอกจากนี้ การมีผิวที่ตอบสนองต่อรังสี UV ได้ง่าย ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สัมพันธ์กับพันธุกรรมเช่นกัน

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT

ลักษณะของฝ้ากรรมพันธุ์เป็นอย่างไร ?

• เริ่มแสดงอาการตั้งแต่อายุยังน้อย

ผู้ที่มีฝ้ากรรมพันธุ์ มักเริ่มสังเกตเห็นรอยฝ้าหรือจุดด่างดำได้ตั้งแต่ในช่วงวัยรุ่นหรือช่วงอายุ 20 ต้น ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวเริ่มตอบสนองต่อแสงแดดและฮอร์โมนได้ง่าย โดยฝ้าที่เกิดจากกรรมพันธุ์มักจะปรากฏขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในบริเวณที่โดนแดดบ่อย เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก หรือบริเวณเหนือริมฝีปาก

• อาจไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป

ฝ้ากรรมพันธุ์มักไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบทั่วไป เช่น การทาครีมลดฝ้า หรือ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณสมบัติช่วยลดการสร้างเม็ดสี เนื่องจากฝ้าประเภทนี้เกิดจากปัจจัยภายใน จึงไม่สามารถรักษาได้ด้วยการรักษาจากภายนอก

• เกิดได้ทั้งแบบฝ้าตื้นและฝ้าลึก

ฝ้ากรรมพันธุ์สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบ ฝ้าตื้น ที่มักจะมีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลอ่อน และ ฝ้าลึก ซึ่งมีลักษณะเป็นปื้นสีเข้มและฝังลึกในชั้นผิว ทำให้การรักษาต้องใช้เวลามากขึ้น เพราะการทำให้ฝ้าลึกจางลงต้องใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับลักษณะของผิว และการเลือกใช้วิธีรักษาที่เฉพาะเจาะจง

วิธีรับมือกับฝ้า กระ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์

การดูแลผิวเพื่อรับมือกับฝ้า กระ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ จำเป็นต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย โดยเฉพาะสิ่งที่สามารถกระตุ้นการเกิดฝ้าหรือทำให้ฝ้ากลับมาเป็นซ้ำได้

• หลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ

แสงแดดเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นการเกิดฝ้า กระ และทำให้ฝ้าเข้มขึ้นอย่างรวดเร็ว การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF50+ PA++++ จะช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ที่ทำให้เกิดฝ้าได้ โดยควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอทุกวัน แม้ในวันที่ไม่ได้ออกไปข้างนอก

• หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้ความร้อนสูง

ความร้อนมีผลต่อการทำงานของเซลล์เม็ดสีที่ผลิตเม็ดสีเมลานินในผิว การทำกิจกรรมที่มีความร้อนสูง เช่น การอบซาวน่าหรือการอาบน้ำร้อน สามารถกระตุ้นให้เม็ดสีผลิตมากขึ้น ส่งผลให้ฝ้าดูเข้มขึ้นหรือเกิดฝ้าใหม่ได้

• ลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ

ความเครียดสะสม สามารถกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนที่มีผลต่อการสร้างเม็ดสี ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ฝ้ากลับมาเป็นซ้ำหรือเข้มขึ้นได้ นอกจากนี้ การนอนหลับไม่เพียงพอก็ทำให้กระบวนการซ่อมแซมผิวไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ ผู้ที่กังวลกับปัญหาฝ้า กระ จึงควรให้ความสำคัญกับการพักผ่อน เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟู

• หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรง หรือมีส่วนผสมที่ทำให้ผิวระคายเคือง อาจทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น และกระตุ้นการเกิดฝ้าได้ง่าย จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว และไม่มีสารที่จะทำให้ผิวบอบบางหรือไวต่อการระคายเคือง

ฝ้ากรรมพันธุ์ รักษาได้ไหม ?

ถึงแม้ว่าฝ้ากรรมพันธุ์จะรักษายากกว่าฝ้าทั่วไป แต่การรักษาที่ตรงจุดและเหมาะสม จะช่วยให้ฝ้าจางลง และลดโอกาสที่ฝ้าจะกลับมาเป็นซ้ำได้

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT

ทางเลือกในการรักษาฝ้ากรรมพันธุ์

  • การใช้ยารักษาเฉพาะจุด

การใช้ยาลดการสร้างเม็ดสี (เช่น Hydroquinone หรือ Tranexamic Acid) สามารถช่วยลดเม็ดสีที่มากเกินไปและปรับผิวให้สว่างขึ้น โดยยาชนิดนี้จะช่วยยับยั้งการผลิตเมลานินในบริเวณที่มีฝ้า แต่อาจต้องใช้เวลารักษาอย่างต่อเนื่อง และอยู่ภายใต้คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

  • เทคโนโลยีเลเซอร์

เทคโนโลยี Pico Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมในการรักษาฝ้า เนื่องจากสามารถยิงพลังงานแสงที่มีความเร็วสูงในระดับ Picosecond ซึ่งช่วยทำลายเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติในชั้นผิวได้โดยไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อรอบข้าง อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้จะเหมาะกับฝ้าบางประเภทเท่านั้น และต้องใช้เวลาในการรักษาอย่างต่อเนื่อง จึงจะสามารถช่วยลดเม็ดสีผิวที่ผิดปกติให้จางลงได้

  • โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน MISS
แพทย์แนะนำโปรแกรมรักษาปัญหาฝ้า

โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน MISS คือ โปรแกรมการรักษาที่ช่วยลดการทำงานของเซลล์เม็ดสี และเร่งการกำจัดเม็ดสีเมลานินส่วนเกินออกจากผิว โดยไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงหรือเกิดการบาดเจ็บ โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้าลึก หรือ ฝ้ากรรมพันธุ์ ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบทั่วไป อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในระยะยาว

โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน MISS : ทางเลือกในการรักษาฝ้า กระ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์

ผลการรักษาฝ้าาด้วยโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน

โปรแกรมรักษาฝ้าที่ออกแบบมาเพื่อลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน โดยไม่ต้องใช้ความร้อน ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฝ้ากรรมพันธุ์ หรือ ฝ้าลึก ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ 

โปรแกรม MISS (Melasma Insight Skin Solution) โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ใช้เทคโนโลยีที่ไม่ทำลายเนื้อเยื่อ และไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง จึงสามารถรักษาฝ้าได้อย่างปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน พร้อมทั้งลดการเกิดผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการรักษาด้วยเลเซอร์หรือความร้อน 

โดยการรักษามีอยู่ด้วยกัน 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้

  1. ยับยั้งเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) โดยใช้สารเฉพาะ ฝังเข้าสู่ผิวโดยตรง เพื่อลดการทำงานของเมลานิน ที่ส่งผลต่อการเกิดฝ้าตื้น ฝ้าลึก และทำให้เม็ดสีผิดปกติ 
  2. เร่งกำจัดเม็ดสีส่วนเกิน ช่วยขับเมลานินที่สะสม โดยไม่ใช้แสงหรือความร้อน จึงไม่ทำร้ายชั้นผิว พร้อมลดความเสี่ยงการเกิดฝ้าซ้ำ รอยไหม้ หรือทำให้ผิวอ่อนแอ 
  3. ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase และ VEGF ลดกระบวนการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้นและความแข็งแรงของผิวชั้น Dermis เพื่อป้องกันฝ้าไม่ให้กลับมาเป็นอีกครั้ง

ขั้นตอนการรักษาด้วยโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน 

  1. Scan Before Treat – ส่องฝ้าก่อนวางแผนการรักษาด้วย Melasma lab
  2. Prep Skin – เตรียมชั้นผิวก่อนฝังยา
  3. Targeted Deep-Injection – ฝังยาเข้าชั้นผิว เก็บฝ้าตามผล Melasma lab
  4. Micro-Infusion – ผลักยาเคลียร์ฝ้าตื้น
  5. One Session, Triple-Layer Result – รักษาหนึ่งครั้ง  เก็บครบทุกชั้น

ฝ้า กระ กรรมพันธุ์ ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล หากรู้วิธีดูแลอย่างถูกต้อง

ถึงแม้ว่า ปัญหาฝ้า กระ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ จะมีความท้าทายในการรักษา แต่โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน MISS ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก ก็สามารถช่วยลดฝ้าให้จางลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ตามคำแนะนำของแพทย์

สอบถามเพิ่มเติม หรือปรึกษาดอกเตอร์แนทคลินิก ที่ Line : @doctornat หรือ โทร. 097-9749944

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

A : ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เนื่องจากปัจจัยทางพันธุกรรมเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการเกิดฝ้าและกระ อย่างไรก็ตาม สามารถรักษาให้รอยดูจางลงอย่างมีนัยสำคัญ และควบคุมไม่ให้เป็นซ้ำหรือฝ้ากระลุกลามเพิ่มได้ หากมีการดูแลอย่างต่อเนื่องและหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น แสงแดด ฮอร์โมน และความร้อน
A : เหมาะกับฝ้าทุกชนิด โดยเฉพาะฝ้าดื้อยา ฝ้าลึก และฝ้าที่เกิดจากกรรมพันธุ์ เพราะไม่ใช้ความร้อนและไม่ทำร้ายผิว
A : โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน โดยทั่วไปแล้วสามารถเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลา 6-8 สัปดาห์หลังการทำ โดยจุดด่างดำและรอยฝ้า ความเข้มจะค่อย ๆ ลดลง แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างออกไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่ปัจจัยต่าง ๆ เฉพาะบุคคล เช่น สภาพผิว ความรุนแรงของฝ้า หรือการดูแลผิวหน้าหลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
A : มีโอกาสสูงที่จะเป็น เนื่องจากปัจจัยทางพันธุกรรมเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการเกิดฝ้าและกระ โดยเฉพาะหากผิวมีการสัมผัสกับแสงแดดเป็นประจำ
A : โปรแกรม MISS เป็นการรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน จึงลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่พบบ่อยจากการใช้เลเซอร์ เช่น ผิวไหม้ แดง หรือฝ้าเข้มขึ้น (rebound hyperpigmentation) ซึ่งมักพบในผิวเอเชียที่มีเม็ดสีมาก การรักษาด้วย MISS เหมาะกับผู้ที่มีผิวบาง ผิวไว หรือเคยเกิดฝ้าแย่ลงหลังการรักษาด้วยเลเซอร์

ข้อมูลอ้างอิง :

  1. Melasma. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK459271/

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เข้าใจปัญหาฝ้าชนิดต่าง ๆ เจาะลึกถึงสาเหตุและวิธีการรักษา

เจาะลึกปัญหาฝ้า ตั้งแต่สาเหตุ ชนิดของฝ้า วิธีรักษาฝ้าที่ได้ผล และการป้องกัน พร้อมแนะนำเทคโนโลยี MISS รักษาฝ้าโดยไม่ใช้ความร้อน

ไม่ทากันแดด เป็นไรไหม ? เสี่ยงฝ้า-ริ้วรอย ผิวพัง

รู้ทันผลเสียจากการไม่ทากันแดด เสี่ยงผิวคล้ำเสีย ฝ้ากระขึ้นหน้า ทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวมีริ้วรอยก่อนวัย พร้อมแนะนำวิธีรักษาฝ้าป้องกันผิวอย่างปลอดภัย

ฉีดฝ้า เลเซอร์ หรือ โปรแกรม MISS แบบไหนรักษาฝ้าดี ผลข้างเคียงน้อยสุด

เปรียบเทียบการรักษาฝ้า 3 วิธี ทั้งการฉีดฝ้า เลเซอร์ และโปรแกรม MISS พร้อมอธิบายข้อดี-ข้อเสีย และผลข้างเคียง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกการรักษาที่ปลอดภัย

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT