
หลายคนอาจสงสัยว่า ฝ้าหรือกระที่เป็นอยู่ เกิดจากกรรมพันธุ์หรือเปล่า ? ถ้าพ่อแม่เป็นฝ้า แล้วลูกจะเป็นตามไหม ? คำถามเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของทุกคนที่มีปัญหาฝ้าหรือกระบนใบหน้า บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจปัญหาผิวชนิดนี้ มาดูกันว่า ฝ้า กระ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ แตกต่างจากฝ้าประเภทอื่นอย่างไร และหากเป็นแล้ว จะมีทางรักษาให้ดีขึ้นได้หรือไม่
ฝ้าและกระ ต่างกันอย่างไร ?
• ฝ้า (Melasma)
ฝ้า คือ ปัญหาผิวที่เกิดจากการผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ที่มากเกินไปในชั้นผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่มีการสัมผัสแสงแดดบ่อย ๆ เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก และเหนือริมฝีปาก ทำให้บริเวณเหล่านั้นเกิดเป็นปื้นสีน้ำตาลเข้มหรือเทา (Hyperpigmentation) และบางครั้งอาจมีสีที่แตกต่างกันเล็กน้อย ตามความลึกของฝ้า
• กระ (Freckles / Lentigines)
กระ คือ จุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ ที่มักพบในบริเวณโหนกแก้ม จมูก และส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า โดยมีลักษณะเป็นจุดกลม ๆ ขนาดเล็ก หรือบางครั้งอาจกระจายตัวทั่วทั้งใบหน้า โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวขาว ซึ่งกระมักเกิดจากการสัมผัสแสงแดดโดยตรง และการสะสมของเม็ดสีเมลานินในบริเวณนั้น ๆ
กรรมพันธุ์มีผลต่อการเกิดฝ้า กระ จริงหรือ ?
“กรรมพันธุ์” มีบทบาทต่อการเกิด ฝ้า และ กระ โดยเฉพาะในกรณีที่พ่อแม่หรือญาติสายตรงมีประวัติเป็นฝ้าหรือกระ โอกาสที่ลูกหลานจะเป็นตามจะเพิ่มสูงขึ้น เพราะเซลล์เม็ดสี (Melanocyte) ของบางคนไวต่อแสงหรือการกระตุ้นมากเป็นพิเศษเพราะพันธุกรรม นอกจากนี้ การมีผิวที่ตอบสนองต่อรังสี UV ได้ง่าย ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สัมพันธ์กับพันธุกรรมเช่นกัน
ลักษณะของฝ้ากรรมพันธุ์เป็นอย่างไร ?
• เริ่มแสดงอาการตั้งแต่อายุยังน้อย
ผู้ที่มีฝ้ากรรมพันธุ์ มักเริ่มสังเกตเห็นรอยฝ้าหรือจุดด่างดำได้ตั้งแต่ในช่วงวัยรุ่นหรือช่วงอายุ 20 ต้น ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวเริ่มตอบสนองต่อแสงแดดและฮอร์โมนได้ง่าย โดยฝ้าที่เกิดจากกรรมพันธุ์มักจะปรากฏขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในบริเวณที่โดนแดดบ่อย เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก หรือบริเวณเหนือริมฝีปาก
• อาจไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป
ฝ้ากรรมพันธุ์มักไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบทั่วไป เช่น การทาครีมลดฝ้า หรือ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณสมบัติช่วยลดการสร้างเม็ดสี เนื่องจากฝ้าประเภทนี้เกิดจากปัจจัยภายใน จึงไม่สามารถรักษาได้ด้วยการรักษาจากภายนอก
• เกิดได้ทั้งแบบฝ้าตื้นและฝ้าลึก
ฝ้ากรรมพันธุ์สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบ ฝ้าตื้น ที่มักจะมีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลอ่อน และ ฝ้าลึก ซึ่งมีลักษณะเป็นปื้นสีเข้มและฝังลึกในชั้นผิว ทำให้การรักษาต้องใช้เวลามากขึ้น เพราะการทำให้ฝ้าลึกจางลงต้องใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับลักษณะของผิว และการเลือกใช้วิธีรักษาที่เฉพาะเจาะจง
วิธีรับมือกับฝ้า กระ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์
การดูแลผิวเพื่อรับมือกับฝ้า กระ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ จำเป็นต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย โดยเฉพาะสิ่งที่สามารถกระตุ้นการเกิดฝ้าหรือทำให้ฝ้ากลับมาเป็นซ้ำได้
• หลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
แสงแดดเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นการเกิดฝ้า กระ และทำให้ฝ้าเข้มขึ้นอย่างรวดเร็ว การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF50+ PA++++ จะช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ที่ทำให้เกิดฝ้าได้ โดยควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอทุกวัน แม้ในวันที่ไม่ได้ออกไปข้างนอก
• หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้ความร้อนสูง
ความร้อนมีผลต่อการทำงานของเซลล์เม็ดสีที่ผลิตเม็ดสีเมลานินในผิว การทำกิจกรรมที่มีความร้อนสูง เช่น การอบซาวน่าหรือการอาบน้ำร้อน สามารถกระตุ้นให้เม็ดสีผลิตมากขึ้น ส่งผลให้ฝ้าดูเข้มขึ้นหรือเกิดฝ้าใหม่ได้
• ลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ
ความเครียดสะสม สามารถกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนที่มีผลต่อการสร้างเม็ดสี ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ฝ้ากลับมาเป็นซ้ำหรือเข้มขึ้นได้ นอกจากนี้ การนอนหลับไม่เพียงพอก็ทำให้กระบวนการซ่อมแซมผิวไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ ผู้ที่กังวลกับปัญหาฝ้า กระ จึงควรให้ความสำคัญกับการพักผ่อน เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟู
• หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรง หรือมีส่วนผสมที่ทำให้ผิวระคายเคือง อาจทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น และกระตุ้นการเกิดฝ้าได้ง่าย จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว และไม่มีสารที่จะทำให้ผิวบอบบางหรือไวต่อการระคายเคือง
ฝ้ากรรมพันธุ์ รักษาได้ไหม ?
ถึงแม้ว่าฝ้ากรรมพันธุ์จะรักษายากกว่าฝ้าทั่วไป แต่การรักษาที่ตรงจุดและเหมาะสม จะช่วยให้ฝ้าจางลง และลดโอกาสที่ฝ้าจะกลับมาเป็นซ้ำได้
ทางเลือกในการรักษาฝ้ากรรมพันธุ์
- การใช้ยารักษาเฉพาะจุด
การใช้ยาลดการสร้างเม็ดสี (เช่น Hydroquinone หรือ Tranexamic Acid) สามารถช่วยลดเม็ดสีที่มากเกินไปและปรับผิวให้สว่างขึ้น โดยยาชนิดนี้จะช่วยยับยั้งการผลิตเมลานินในบริเวณที่มีฝ้า แต่อาจต้องใช้เวลารักษาอย่างต่อเนื่อง และอยู่ภายใต้คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- เทคโนโลยีเลเซอร์
เทคโนโลยี Pico Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมในการรักษาฝ้า เนื่องจากสามารถยิงพลังงานแสงที่มีความเร็วสูงในระดับ Picosecond ซึ่งช่วยทำลายเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติในชั้นผิวได้โดยไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อรอบข้าง อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้จะเหมาะกับฝ้าบางประเภทเท่านั้น และต้องใช้เวลาในการรักษาอย่างต่อเนื่อง จึงจะสามารถช่วยลดเม็ดสีผิวที่ผิดปกติให้จางลงได้
- โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน MISS

โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน MISS คือ โปรแกรมการรักษาที่ช่วยลดการทำงานของเซลล์เม็ดสี และเร่งการกำจัดเม็ดสีเมลานินส่วนเกินออกจากผิว โดยไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงหรือเกิดการบาดเจ็บ โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้าลึก หรือ ฝ้ากรรมพันธุ์ ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบทั่วไป อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในระยะยาว
โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน MISS : ทางเลือกในการรักษาฝ้า กระ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์

โปรแกรมรักษาฝ้าที่ออกแบบมาเพื่อลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน โดยไม่ต้องใช้ความร้อน ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฝ้ากรรมพันธุ์ หรือ ฝ้าลึก ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ
โปรแกรม MISS (Melasma Insight Skin Solution) โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ใช้เทคโนโลยีที่ไม่ทำลายเนื้อเยื่อ และไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง จึงสามารถรักษาฝ้าได้อย่างปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน พร้อมทั้งลดการเกิดผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการรักษาด้วยเลเซอร์หรือความร้อน
โดยการรักษามีอยู่ด้วยกัน 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
- ยับยั้งเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) โดยใช้สารเฉพาะ ฝังเข้าสู่ผิวโดยตรง เพื่อลดการทำงานของเมลานิน ที่ส่งผลต่อการเกิดฝ้าตื้น ฝ้าลึก และทำให้เม็ดสีผิดปกติ
- เร่งกำจัดเม็ดสีส่วนเกิน ช่วยขับเมลานินที่สะสม โดยไม่ใช้แสงหรือความร้อน จึงไม่ทำร้ายชั้นผิว พร้อมลดความเสี่ยงการเกิดฝ้าซ้ำ รอยไหม้ หรือทำให้ผิวอ่อนแอ
- ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase และ VEGF ลดกระบวนการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้นและความแข็งแรงของผิวชั้น Dermis เพื่อป้องกันฝ้าไม่ให้กลับมาเป็นอีกครั้ง
ขั้นตอนการรักษาด้วยโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
- Scan Before Treat – ส่องฝ้าก่อนวางแผนการรักษาด้วย Melasma lab
- Prep Skin – เตรียมชั้นผิวก่อนฝังยา
- Targeted Deep-Injection – ฝังยาเข้าชั้นผิว เก็บฝ้าตามผล Melasma lab
- Micro-Infusion – ผลักยาเคลียร์ฝ้าตื้น
- One Session, Triple-Layer Result – รักษาหนึ่งครั้ง เก็บครบทุกชั้น
ฝ้า กระ กรรมพันธุ์ ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล หากรู้วิธีดูแลอย่างถูกต้อง
ถึงแม้ว่า ปัญหาฝ้า กระ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ จะมีความท้าทายในการรักษา แต่โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน MISS ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก ก็สามารถช่วยลดฝ้าให้จางลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ตามคำแนะนำของแพทย์
สอบถามเพิ่มเติม หรือปรึกษาดอกเตอร์แนทคลินิก ที่ Line : @doctornat หรือ โทร. 097-9749944
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ข้อมูลอ้างอิง :
- Melasma. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK459271/
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เข้าใจปัญหาฝ้าชนิดต่าง ๆ เจาะลึกถึงสาเหตุและวิธีการรักษา
เจาะลึกปัญหาฝ้า ตั้งแต่สาเหตุ ชนิดของฝ้า วิธีรักษาฝ้าที่ได้ผล และการป้องกัน พร้อมแนะนำเทคโนโลยี MISS รักษาฝ้าโดยไม่ใช้ความร้อน
ไม่ทากันแดด เป็นไรไหม ? เสี่ยงฝ้า-ริ้วรอย ผิวพัง
รู้ทันผลเสียจากการไม่ทากันแดด เสี่ยงผิวคล้ำเสีย ฝ้ากระขึ้นหน้า ทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวมีริ้วรอยก่อนวัย พร้อมแนะนำวิธีรักษาฝ้าป้องกันผิวอย่างปลอดภัย
ฉีดฝ้า เลเซอร์ หรือ โปรแกรม MISS แบบไหนรักษาฝ้าดี ผลข้างเคียงน้อยสุด
เปรียบเทียบการรักษาฝ้า 3 วิธี ทั้งการฉีดฝ้า เลเซอร์ และโปรแกรม MISS พร้อมอธิบายข้อดี-ข้อเสีย และผลข้างเคียง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกการรักษาที่ปลอดภัย