ตำแหน่งสิวบอกโรคได้จริงไหม ? เข้าใจและดูแลอย่างถูกวิธี

August, 20 2025

/ By Doctor NAT Clinic

ผู้หญิงที่มีปัญหาสิวบริเวณหน้าผาก

หลายคนอาจเคยสังเกตว่าสิวมักกลับมาขึ้นอยู่ที่บริเวณเดิมซ้ำ ๆ ไม่ว่าจะเป็นตรงหน้าผาก คาง หรือระหว่างคิ้ว และอดสงสัยไม่ได้ว่า ตำแหน่งสิวบอกโรคได้จริงไหม ? หรือตำแหน่งของสิวมีความหมายอะไรแฝงอยู่หรือเปล่า? บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับแนวคิด “ตำแหน่งสิวบอกโรค” พร้อมคำอธิบายจากมุมมองทางการแพทย์ และแนวทางการดูแลอย่างเหมาะสม

ไขข้อสงสัย สิวบอกโรคได้จริงหรือแค่ความเชื่อ ?

แนวคิด “Face Mapping” หรือ แผนที่สิวบนใบหน้า มาจากการแพทย์แผนจีนที่เชื่อว่า ตำแหน่งสิวสัมพันธ์กับอวัยวะภายใน เช่น ตับ ลำไส้ หรือปอด ซึ่งปัจจุบันแม้จะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันได้อย่างแน่ชัดทั้งหมด แต่วงการแพทย์ผิวหนังก็ยอมรับว่า บางตำแหน่งของสิวอาจสะท้อนถึงพฤติกรรมหรือปัญหาภายในร่างกายได้ โดยเฉพาะสิวที่เกิดซ้ำในจุดเดิม และไม่ตอบสนองต่อการดูแลภายนอกทั่วไป

การวิเคราะห์ตำแหน่งสิวแต่ละจุด บอกอะไรได้บ้าง ?

แม้ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ตำแหน่งสิวบนหน้าคือการบอกโรค แต่การสังเกตตำแหน่งที่สิวขึ้น ก็อาจช่วยให้เรามองเห็นพฤติกรรมหรือระบบภายในที่ควรให้ความใส่ใจมากขึ้น

สิวที่หน้าผาก

ตำแหน่งสิวที่หน้าผากมักพบร่วมกับปัจจัยภายนอก เช่น การอุดตันของรูขุมขน จากผลิตภัณฑ์จัดแต่งผม หรือ การล้างหน้าไม่สะอาด ในกลุ่มวัยรุ่นอาจพบร่วมกับความมันของผิวที่เพิ่มขึ้น

ในบางรายที่สิวขึ้นบ่อยที่หน้าผาก อาจสะท้อนถึงพฤติกรรมภายใน เช่น นอนดึก ความเครียดสะสม หรือ ระบบย่อยอาหารที่ไม่สมดุลได้เช่นกัน

คำแนะนำ : ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอุดตัน และปรับพฤติกรรมการพักผ่อนให้เพียงพอ

สิวระหว่างคิ้ว

บริเวณระหว่างคิ้ว ถือเป็นจุดที่สัมพันธ์กับการทำงานของตับ ดังนั้น พฤติกรรมที่กระตุ้นให้ตับทำงานหนัก เช่น การรับประทานอาหารมัน ของทอด หรือการดื่มแอลกอฮอล์ อาจส่งผลให้เกิดสิวในจุดนี้ได้

การปรับพฤติกรรม เช่น การลดอาหารที่มีไขมันสูง และการพักผ่อนที่เพียงพอ จะช่วยลดภาระให้ตับและอาจช่วยลดการเกิดสิวบริเวณนี้

คำแนะนำ : ลดอาหารที่กระตุ้นการอักเสบ เช่น ของมัน ของทอด และดื่มน้ำให้เพียงพอ

สิวบริเวณจมูก

ตำแหน่งสิวที่จมูก ตำแหน่งนี้เป็นหนึ่งในจุดที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่ (sebaceous glands) ซึ่งผลิตน้ำมันมากกว่าบริเวณอื่น จึงมีโอกาสเกิดการอุดตันง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวมัน หรือล้างเครื่องสำอางออกไม่หมด

แม้มีความเชื่อว่าเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด หรือ คอเลสเตอรอล แต่ในเวชปฏิบัติ สิวบริเวณนี้มักสัมพันธ์กับความมันและการอุดตันมากกว่า

คำแนะนำ : หลีกเลี่ยงการใช้รองพื้นหนัก ๆ และล้างหน้าให้สะอาด โดยเฉพาะบริเวณซอกจมูก

สิวที่แก้ม

  • แก้มด้านขวา : อาจเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ หรือภาวะภูมิแพ้ โดยเฉพาะผู้ที่สัมผัสฝุ่น มลภาวะ หรือมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้
  • แก้มด้านซ้าย : มีความเชื่อมโยงกับตับและการสะสมสารพิษในร่างกาย

นอกจากนี้ สิวที่แก้มยังมักเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือโดยไม่ทำความสะอาด หรือการใส่แมสก์เป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองสะสม

คำแนะนำ : หมั่นทำความสะอาดสิ่งที่สัมผัสกับใบหน้า เช่น โทรศัพท์ ปลอกหมอน และเปลี่ยนแมสก์อย่างสม่ำเสมอ

สิวที่คางและแนวกราม

สิวในบริเวณคางและแนวกราม เป็นจุดที่มักสัมพันธ์กับฮอร์โมน โดยเฉพาะในผู้หญิงก่อนมีประจำเดือน หรือผู้ที่มีภาวะ PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่ฮอร์โมนไม่สมดุล

ในทางคลินิกถือว่าเป็นกลุ่ม “Hormonal Acne” ซึ่งอาจไม่ตอบสนองต่อยาทาภายนอกทั่วไป และต้องประเมินร่วมกับแพทย์

คำแนะนำ : หากสิวเกิดซ้ำในช่วงเดียวกันของรอบเดือน ควรพบแพทย์เพื่อวางแผนดูแลจากภายในร่วมกับการรักษาภายนอก

ผู้หญิงกำลังกังวลกับตำแหน่งสิวที่ขึ้นอยู่ทั่วใบหน้า

สิวขึ้นที่ตำแหน่งเดิมซ้ำ ๆ บอกอะไร ? ต้องทำอย่างไร ?

หากพบว่ามีสิวเกิดซ้ำที่จุดเดิม เช่น คาง แก้ม หรือหน้าผาก เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง หรือเกิดเป็นประจำในช่วงเวลาเดิมของเดือน อาการนี้อาจสะท้อนปัญหาทั้งจากภายในและภายนอก ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด

ในทางเวชปฏิบัติ แพทย์ผิวหนังพบว่า “สิวที่เกิดซ้ำในตำแหน่งเดิม” มักสัมพันธ์กับหนึ่งในปัจจัยเหล่านี้

  • พฤติกรรมซ้ำ ๆ ที่กระตุ้นการอุดตันหรือระคายเคืองผิว เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือที่ไม่สะอาด การพักผ่อนน้อย หรือ การล้างหน้าไม่สะอาด
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือเส้นผมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน (comedogenic ingredients) ซึ่งอาจทำให้รูขุมขนอุดตันเรื้อรัง
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน (Hormonal fluctuation) โดยเฉพาะในผู้หญิงก่อนมีประจำเดือน หรือผู้ที่มีภาวะ PCOS
  • ภาวะเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับระบบภายใน เช่น ระบบย่อยอาหารทำงานไม่สมดุล ภาวะลำไส้แปรปรวน หรือ เกิดความเครียดสะสมที่กระทบต่อภูมิคุ้มกัน

ในทางคลินิก หากเกิดสิวที่เป็นซ้ำบริเวณเดิมติดต่อกันเกิน 3 เดือน แพทย์จะพิจารณาให้เข้าสู่กระบวนการวินิจฉัยอย่างละเอียด

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT

แนวทางดูแลสิวที่ขึ้นซ้ำตำแหน่งเดิม

  1. หลีกเลี่ยงการบีบ แกะ หรือสัมผัสบ่อย ๆ
    เพราะการรบกวนสิวซ้ำจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และอาจทิ้งรอยแดงหรือหลุมสิวตามมา
  2. ปรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้เหมาะกับผิวเป็นสิวง่าย
    เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า Non-Comedogenic / Fragrance-Free / Oil-Free และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหนักหรือมีส่วนผสมของซิลิโคน
  3. ปรับพฤติกรรมพื้นฐานที่มักถูกมองข้าม
    เช่น นอนให้ตรงเวลา ลดน้ำตาลและไขมันในอาหาร หลีกเลี่ยงความเครียดเรื้อรัง และดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ
  4. หากสิวกลับมาในตำแหน่งเดิมเกิน 3 เดือน
    ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการตรวจประเมินว่าเป็นสิวที่มีปัจจัยฮอร์โมน ภูมิแพ้ หรือการอักเสบในรูขุมขน หลังจากนั้นแพทย์จะพิจารณาการรักษาทั้งภายในและภายนอกควบคู่กันไป เช่น
    • จ่ายยารับประทานเพื่อควบคุมฮอร์โมน
    • การทำทรีตเมนต์ลดการอุดตันและลดแบคทีเรีย
    • การวิเคราะห์เลือดหรือฮอร์โมนเฉพาะราย (ในกรณีที่จำเป็น)

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคจากสิว

แม้ว่าตำแหน่งสิว อาจช่วยให้ประเมินเบื้องต้นถึงพฤติกรรมหรือความเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายได้บ้าง เช่น ภาวะความเครียด การพักผ่อนน้อย หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน แต่ในทางการแพทย์ “สิว” ไม่สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคใด ๆ ได้โดยลำพัง โดยเฉพาะหากยังไม่ได้ผ่านการประเมินจากแพทย์อย่างละเอียด

สิวอาจเป็นเพียงสัญญาณที่สะท้อนสภาพผิวชั่วคราว เช่น:

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
  • การล้างหน้าที่ไม่เหมาะสม
  • ความเครียดเรื้อรังหรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงเวลาหนึ่ง
  • ปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือหน้ากากอนามัย

ในบางกรณี สิวอาจเกิดร่วมกับภาวะบางอย่าง เช่น ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล (เช่น PCOS), ภาวะต่อมไขมันไวต่อแอนโดรเจน หรือผลข้างเคียงจากยา แต่แพทย์จะต้องใช้ข้อมูลร่วมกันหลายด้าน เช่น ประวัติอาการ การตรวจร่างกาย และผลเลือดจึงจะสามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ

แนวทางดูแลสิวอย่างถูกวิธีโดยแพทย์ผิวหนัง

การรักษาสิวอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ควรเน้นเพียงการลดสิวภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ควรเริ่มจากการค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของสิว ทั้งจากพฤติกรรม ปัจจัยกระตุ้นภายนอก ไปจนถึงความไม่สมดุลภายใน เช่น ฮอร์โมน การอักเสบเรื้อรัง หรือภูมิคุ้มกันที่เปลี่ยนแปลง

หากสิวมีแนวโน้มเกิดซ้ำ รุนแรง หรือไม่ตอบสนองต่อการดูแลทั่วไป การเข้ารับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาโดยแพทย์ผิวหนังจะช่วยให้ดูแลได้อย่างตรงจุด ปลอดภัย และลดโอกาสเกิดรอยแผลหรือผลข้างเคียงระยะยาว

ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก มีโปรแกรมรักษาสิวที่ช่วยวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการเกิดสิวได้อย่างแม่นยำ พร้อมด้วยวิธีรักษาที่ช่วยลดการรับประทานยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา และลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง

คลินิกรักษาสิว ดอกเตอร์แนทคลินิก บริการ Acne Lab ตรวจหาเชื้อสิวเฉพาะบุคคล
โปรแกรม Fit Test ตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง

ในขั้นตอนแรก แพทย์จะทำการหาสาเหตุของของสิวด้วย 2 วิธี ได้แก่

  • Acne Lab ตรวจเชื้อสิวเฉพาะบุคคล : เป็นการเก็บตัวอย่างสิว นำไปส่องกล้องจุลทรรศน์ เพื่อดูว่าเป็นสิวประเภทไหน เกิดจากเชื้ออะไร
  • Fit Test ตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง : การเจาะเลือดเพื่อทดสอบถึงภูมิแพ้อาหารแฝง

เมื่อรู้ถึงสาเหตุของสิวแล้ว แพทย์จะทำการวิเคราะห์ว่าควรรักษาด้วยวิธีใด โดยที่ดอกเตอร์แนทคลินิกมีโปรแกรมรักษาสิวที่ต้นตออยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ ดังนี้

โปรแกรม Acne Resolve

โปรแกรมรักษาสิวด้วยการใช้เทคโนโลยีส่งคลื่นพลังงานผ่านหัวเข็มที่มีขนาดเล็ก เข้าไปสลายต่อมไขมันที่โผล่ขึ้นมา เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ ช่วยทำให้ต่อมไขมันใต้ชั้นผิวฝ่อลง ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน พร้อมทำลายเชื้อ C. acnes (ชื่อเดิม P.acnes) ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว

โปรแกรม Acclear

โปรแกรมรักษาสิวผสาน 2 เทคโนโลยี เพื่อรักษาพร้อมฟื้นฟูผิวถึงต้นตอ

  • นวัตกรรมที่ 1 : ใช้พลังงานเลเซอร์ LONG PULSE DIODE 1450 ในการยิงต่อมไขมันที่มองไม่เห็นใต้ผิว เพื่อลดขนาดต่อมไขมัน ซึ่งจะช่วยให้ความมันบนใบหน้าลดลง และลดการเกิดสิวใหม่ โดยไม่พึ่งการใช้ยาสิว ช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง
  • นวัตกรรมที่ 2 : ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกับเครื่อง Thermage ช่วยทำให้ต่อมไขมันใต้ชั้นผิวฝ่อลง ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน พร้อมทำลายเชื้อ C.acnes (ชื่อเดิม P.acnes) ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT

สิวขึ้นซ้ำที่เดิม อาจไม่ใช่แค่เรื่องผิวหน้า

หากคุณกำลังเผชิญกับสิวที่ขึ้นในตำแหน่งเดิมซ้ำ ๆ รักษาเองแล้วไม่หาย หรือรู้สึกว่าสิวอาจเกี่ยวข้องกับสุขภาพภายใน แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษา พร้อมทำการรักษาสิวกับแพทย์ผิวหนังที่ดอกเตอร์แนทคลินิก เราพร้อมช่วยคุณวิเคราะห์ทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน พร้อมวางแผนการดูแลที่เหมาะกับผิวและสุขภาพของคุณ

ปรึกษาดอกเตอร์แนทคลินิกที่ Line : @doctornat หรือ โทร. 097-9749944

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวบอกโรค

อาจเกี่ยวกับการนอนหลับ ระบบลำไส้ หรือความเครียดสะสม
ใช่ โดยเฉพาะในผู้หญิงช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือมีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน
ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ชัดเจน แต่อาจเป็นสัญญาณให้ใส่ใจเรื่องคอเลสเตอรอลและความดัน
ไม่สามารถใช้วินิจฉัยโรคได้โดยตรง แต่อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่ควรใส่ใจ หากมีปัญหาสิว สามารถเข้ามารับการตรวจวินิจฉัยได้ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก เพื่อหาสาเหตุของการเกิดสิว และทำการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
โปรแกรม ACCLEAR: ผสาน 2 เทคโนโลยีรักษาสิวที่ต้นตอ สำหรับผู้ที่มีสิวอักเสบที่ดื้อต่อการรักษาด้วยยา โปรแกรม ACCLEAR เป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการรักษา สิวที่มีการอักเสบลึกและยากต่อการรักษาแบบทั่วไป เพราะโปรแกรมนี้ผสานพลังการรักษาถึง 2 เทคโนโลยี ได้แก่
  • พลังงานเลเซอร์ LONG PULSE DIODE 1450 ยิงต่อมไขมันที่มองไม่เห็นใต้ผิวแบบทั่วหน้า ช่วยลดขนาดต่อมไขมัน ป้องกันการเกิดสิวใหม่  ไม่ต้องพึ่งยาสิว ลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของยา ไม่ทำลายสุขภาพตับ
  • คลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว ( Monopolar RF ) ใช้เทคโนโลยี เทียบเคียงกับเครื่อง Thermage เพื่อจัดการปัญหาสิว ลงลึกถึงต่อมไขมันที่ทำงานผิดปกติ ทำให้ต่อมไขมันฝ่อลง ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน จัดการกับเชื้อ P.acnes (C.acnes) ต้นตอหลักของการเกิดสิว
การใช้พลังงานทั้ง 2 ชนิดร่วมกันจะทำให้การรักษาสิวอักเสบได้ผลอย่างรวดเร็วและยั่งยืน โดยไม่ต้องพึ่งยาปฏิชีวนะที่อาจมีผลข้างเคียงในระยะยาว  โปรแกรม Acne Resolve: รักษาสิวจากต้นตอ  ใช้เทคโนโลยีคลื่นพลังงาน RF (Radio Frequency) ที่มีความเฉพาะเจาะจงในการรักษาสิว โดยพลังงานของคลื่นจะเข้าไปที่ต่อมไขมันซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ช่วยสลายต่อมไขมันที่อุดตันและทำลายเชื้อ P.acnes ที่ทำให้เกิดการอักเสบ โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเรื้อรัง หรือผู้ที่เป็นสิวและไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป

ข้อมูลอ้างอิง :

  1. Can You Use Face Mapping to Improve Your Skin’s Health?. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 จาก https://www.healthline.com/health/face-mapping

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT