
โบท็อกช่วยอะไรได้บ้าง? โบท็อก (Botox) เป็นทางเลือกหัตถการเสริมความงามยอดฮิตสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์เร็วและมีความปลอดภัยสูง ผิวหน้าเยาว์วัยและสดใสขึ้น
Doctor NAT Clinic จะพาไปทำความรู้จักกับโบท็อก (Botox) ว่าคืออะไร กระบวนการทำงานเป็นอย่างไร มียี่ห้อไหนบ้าง ตามไปดูกันได้เลยค่ะ
โบท็อก คืออะไร
โบท็อก (Botox) คือสารพิษโบทูลินัม ชนิด A ที่ผลิตจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum เมื่อฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้ริ้วรอยจางลง ป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ และปรับรูปหน้าให้เรียวได้ นอกจากนี้ โบท็อกยังช่วยรักษาโรคบางชนิด เช่น ปวดไมเกรน เหงื่อออกมากผิดปกติ และออฟฟิศซินโดรมได้อีกด้วย
กระบวนการทำงานของโบท็อก
โบท็อก (Botulinum Toxin) เป็นสารพิษที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท โดยจะไปยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้ตามปกติ ส่งผลให้ริ้วรอยบนใบหน้าลดลง
ฉีดโบท็อกบริเวณไหนได้บ้าง
- รอยย่นหน้าผาก
- รอยย่นระหว่างคิ้ว
- ยกคิ้ว
- รอยตีนกา
- รอยย่นจมูก
- ปีกจมูก
- กรอบหน้า
- กราม
- รักแร้
ฉีดโบท็อกแต่ละตำแหน่งใช้กี่ยูนิต

- รอยย่นหน้าผาก: 15-20 ยูนิต
- รอยตีนกา: 10-20 ยูนิต
- รอยย่นระหว่างคิ้ว: 6-12 ยูนิต
- กราม: 30-50 ยูนิต
- กรอบหน้า: 50–100 ยูนิต
- รักแร้: 100 ยูนิต
อย่างไรก็ตาม จำนวนยูนิตที่ใช้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลตามแพทย์ประเมิน
โบท็อกอันตรายไหม
ทราบกันไปแล้วว่าโบท็อกช่วยอะไรได้บ้าง แต่หลายคนคงจะสงสัยด้วยว่าโบท็อกอันตรายไหม? จริง ๆ แล้วโบท็อกมีความปลอดภัยสูงเมื่อใช้อย่างถูกวิธีและฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ในปัจจุบันก็มีโบท็อกปลอมมากมาย แนะนำให้ระวัง และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือในการเข้ารับบริการ
โบท็อกมีกี่ยี่ห้อ อะไรบ้าง
โบท็อกที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย มีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและความเข้มข้นแตกต่างกัน
1. Allergan จากประเทศอเมริกา
Allergan ผลิตโดยบริษัท Allergan จากสหรัฐอเมริกา มีความบริสุทธิ์สูงมากถึง 99.5% และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ยากระจายตัวแคบ เหมาะสำหรับการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า และรักษาอาการทางการแพทย์ เช่น ไมเกรน เหงื่อออกมากผิดปกติ
- ราคาประมาณ 16,000 – 20,000 บาท
- อยู่ได้นาน 5-6 เดือน
2. Xeomin จากประเทศเยอรมัน
Xeomin ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA จากเยอรมนี มีความบริสุทธิ์สูงสุด และไม่มีการปนเปื้อนของโปรตีน ยากระจายตัวดี เหมาะสำหรับการฉีดริ้วรอย ปรับรูปหน้า ลดกราม และผู้ที่ใช้โบท็อกเป็นประจำ มีอาการดื้อหรือแพ้โบท็อกยี่ห้ออื่น
- ราคาประมาณ 15,000 – 20,000 บาท
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
3. Dysport จากประเทศอังกฤษ
Dysport ผลิตโดยบริษัท Ipsen Biopharm จากประเทศอังกฤษ มีโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อก Allergan ทำให้กระจายตัวได้ดีและครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่า เหมาะสำหรับการรักษาบริเวณที่ไม่ตึงเกินไป เช่น รอยย่นรอบดวงตา ระหว่างคิ้ว เป็นต้น
- ราคาประมาณ 16,000 – 20,000 บาท
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
4. Nabota จากประเทศเกาหลี
Nabota ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical จากเกาหลีใต้ มีความบริสุทธิ์สูง 98.7% ออกฤทธิ์ไว ให้ผลลัพธ์หลังฉีดอย่างเป็นธรรมชาติ โบท็อกราคาไม่แพง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดีในราคาที่ย่อมเยากว่า
- ราคาประมาณ 7,000 – 9,000 บาท
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
5. Neuronox จากประเทศเกาหลี
Neuronox ผลิตโดยบริษัท Medytox จากเกาหลีใต้ มีความบริสุทธิ์สูง 98-99% แต่ราคาถูกกว่า ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย ปรับหน้าเรียว แต่มีงบประมาณจำกัด
- ราคาประมาณ 7,000 – 9,000 บาท
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
6. Aestox จากประเทศเกาหลี
Aestox ผลิตโดยบริษัท Hugel จากเกาหลีใต้ เป็นโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูง 99.5% ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว และมีประสิทธิภาพดี เหมาะสำหรับการลดเลือนริ้วรอยใต้ตา ลิฟกรอบหน้า ไปจนถึงเหงื่อออกมากผิดปกติ
- ราคาประมาณ 7,000 – 9,000 บาท
- อยู่ได้นาน 4-5 เดือน
7. Botulax จากประเทศเกาหลี
Botulax จากเกาหลีใต้ เป็นโบท็อกที่สามารถยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อได้ดี มีความบริสุทธิ์สูง 99.5% ถึง แต่ราคาถูกกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยแต่มีงบประมาณจำกัด ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน
- ราคาประมาณ 6,000 – 9,000 บาท
- อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
8. HUGEL จากประเทศเกาหลี
HUGEL ผลิตโดยบริษัท Hugel จากเกาหลีใต้ เป็นโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูงและให้ผลลัพธ์ที่ดี เหมาะสำหรับการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า มีราคาที่ย่อมเยา
- ราคาประมาณ 6,000 – 8,000 บาท
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
9. CLODEW จากประเทศเกาหลี
CLODEW ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical จากเกาหลีใต้ เป็นโบท็อกที่มีเทคนิคเฉพาะ Double V Lifting และราคาไม่แพง ออกฤทธิ์ไว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดลดกราม ริ้วรอย ยกกระชับ เป็นต้น
- ราคาประมาณ 5,000 – 7,000 บาท
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
10. BTXA จากฮ่องกง
BTXA ผลิตโดยบริษัท Lanzhou Biotechnique Development จากฮ่องกง มีความบริสุทธิ์สูง 99.5% เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย ลิฟกรอบหน้า ลดกราม ออกฤทธิ์นาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และปัจจัยอื่น ๆ ด้วย
- ราคาประมาณ 6,000 – 10,000 บาท
- อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก
- งดใช้ยาต้านการอักเสบและยาละลายลิ่มเลือด 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว มีประวัติของโรคเริมบริเวณฝีปากหรือกำลังตั้งครรภ์
- งดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA วิตามิน A สครับหน้า 1-2 วันก่อนฉีด
- พักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอก่อนวันฉีด
ข้อปฏิบัติหลังฉีดโบท็อก
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการนอนราบหรือนอนตะแคงเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- งดการสัมผัสหรือถูบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 2-3 วัน
- หลีกเลี่ยงแสงแดด หรืออาบแดด และซาวน่า
- รอผลลัพธ์หลังฉีดประมาณ 10–14 วัน
โบท็อกเห็นผลกี่วัน
โบท็อกเริ่มออกฤทธิ์หลังฉีดประมาณ 2-7 วัน โดยจะเห็นผลชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ ริ้วรอยจะค่อย ๆ จางลง ใบหน้ากระชับ อ่อนเยาว์ขึ้น ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปริมาณโบท็อกที่ใช้ และการดูแลตัวเอง หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการฉีดโบท็อกที่เหมาะสม
โบท็อกอยู่ได้นานกี่เดือน
โดยทั่วไป ฤทธิ์ของโบท็อกจะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของโบท็อก ปริมาณที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล บางคนอาจเห็นผลนานถึง 8 เดือน ในขณะที่บางคนอาจต้องฉีดซ้ำเร็วกว่า เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง แนะนำว่าให้ฉีดซ้ำทุก 6 เดือน หรือตามคำแนะนำของแพทย์จะดีที่สุด
เพราะอะไร ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผล
การฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผลอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ใช้โบท็อกที่ไม่มีคุณภาพ ฉีดในปริมาณที่น้อยเกินไป ใช้เทคนิคไม่ถูกต้อง หรือผู้รับการรักษาดื้อโบท็อก นอกจากนี้ ในบางกรณี ริ้วรอยอาจเกิดจากปัญหาผิวหนังมากกว่ากล้ามเนื้อ ทำให้โบท็อกไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด หากไม่เห็นผลหลังฉีดใน 2 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและแก้ไข
ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังฉีดโบท็อก
- รอยช้ำหรือบวมบริเวณที่ฉีด
- อาการเจ็บปวดบริเวณที่ฉีด
- อาการตึงหลังฉีด
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นหลังฉีดโบท็อก
- มุมปากหย่อน : การฉีดลดรอยตีนกา ถ้าฉีดลึกเกินไป ยาอาจซึมเข้ากล้ามเนื้อ Zygomaticus ได้ ทำให้ริมฝีปากบนห้อยลงมา
- ใบหน้าไม่สมมาตร : หลังจากการฉีดโบท็อกกราม อาจเกิดจากกล้ามเนื้อกราม หรือกระดูกที่มีขนาดไม่เท่ากัน
- ตาแห้ง : การสร้างน้ำตาลดลงเมื่อมีการฉีดโบท็อกเข้าต่อมน้ำตา
- หนังตาตก : หลังจากฉีกโบท็อกริ้วรอยที่หน้าผาก อาจจะทำให้หนังตาตกได้ แต่ส่วนมากจะหายเองใน 2-4 สัปดาห์ แต่หากไม่ดีขึ้น หรือหนังตาตกอย่างรุนแรง แนะนำให้พบแพทย์
การฉีดโบท็อก ไม่เหมาะกับใคร
- สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
- ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีโรคผิวหนังบริเวณที่จะฉีด
เลือกคลินิกเสริมความงามอย่างไรให้ปลอดภัย
- ตรวจสอบใบอนุญาตของคลินิก
- แพทย์ผู้ให้บริการต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม
- คลินิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย.
- มีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สะอาด ได้มาตรฐาน
- มีการอธิบายขั้นตอน ผลข้างเคียง และการดูแลหลังทำอย่างละเอียด
- มีประวัติการให้บริการที่ดี และมีความน่าเชื่อถือ
สรุปแล้ว โบท็อกช่วยอะไรได้บ้าง? นอกจากการลดเลือนริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้าแล้ว โบท็อกยังสามารถช่วยในการรักษาอาการทางการแพทย์หลายอย่าง เช่น ไมเกรน เหงื่อออกมากผิดปกติ และโรคกล้ามเนื้อบางชนิดอีกด้วย ก่อนทำ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้โบท็อก ทั้งในแง่ความงามและการรักษา
ฉีดโบท็อกที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic)
ที่ดอกเตอร์แนทคลินิก (Doctor NAT Clinic) เรามีโปรแกรมโบท็อก MBO Program (Micro-scan Botulinum Toxin) ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกริ้วรอย โบท็อกกราม และโบท็อกลิฟกรอบหน้า ที่จะช่วยปรับรูปหน้าของคุณให้ดูดีขึ้น ลดความหย่อนคล้อย ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง พร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิด แพทย์จะประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด โดยเริ่มจากการทำอัลตราซาวด์ หรือ Facial Ultrasound ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้เห็นถึงโครงสร้างของใบหน้า ชั้นผิว เส้นเลือด รวมถึงเส้นประสาท ทำให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เห็นผลภายใน 1-2 สัปดาห์ และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ในราคาเริ่มต้นที่ 9,990 บาทเท่านั้น!
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เลือกทรงปากให้เหมาะกับใบหน้ายังไงดี?
รวม 9 ทรงปากสวยยอดฮิต พร้อมเทคนิคเลือกให้เข้ากับรูปหน้า ทั้งสไตล์เกาหลีและสายฝอ เพื่อริมฝีปากสวย ดูเป็นธรรมชาติ ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปดูกันเลย!
รวมวิธีบอกลาใต้ตาดำ หมีแพนด้า เผยตาสดใส
รวม 6 วิธีแก้ใต้ตาดำด้วยตัวเองที่ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน พร้อมทางเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาแบบเร่งด่วน เผยความลับสู่ผิวใต้ตาสดใส ไร้รอยคล้ำ อ่านเลย!”
ไขคำตอบ ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
ไขข้อสงสัย ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน พร้อมปัจจัยที่ส่งผลต่อความคงทน ทั้งชนิดฟิลเลอร์ ตำแหน่งฉีด และการดูแลหลังฉีด เรียนรู้วิธีดูแลตัวเองเพื่อยืดอายุฟิลเลอร์