รักษาฝ้า แต่หน้าพังเพราะเลเซอร์

July, 17 2025

/ By Doctor NAT Clinic

รักษาฝ้าแต่หน้าพัง เพราะเลเซอร์

เมื่อเลเซอร์ที่ควรรักษากลายเป็นจุดเริ่มต้นของรอยแผลใจ

หมอแนทเห็นคนไข้จำนวนมากที่เดินเข้ามาที่ Doctor Nat Clinic พร้อมน้ำเสียงที่สั่นไหวว่า
หนูแค่ไปยิงเลเซอร์มา… แต่นอกจากฝ้าไม่หาย หน้ายิ่งแย่กว่าเดิม
เพราะในความเป็นจริง… เลเซอร์ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของการรักษาฝ้าและที่สำคัญ
การใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้สิ่งที่เคยเป็นแค่ “ฝ้า” กลายเป็น “ปัญหาผิวถาวร” ได้

หน้าพังเพราะเลเซอร์ เกิดจากอะไร?

เลเซอร์ไม่ใช่เวทมนตร์รักษาฝ้าแต่เป็นเพียง “พลังงานความร้อน” ที่ใช้ยิงเพื่อกระจายเม็ดสี (Melanocyte) ให้แตกตัวแล้วให้ร่างกายค่อยๆ กำจัดออกไปเองแต่ถ้าพลังงานนั้น “แรงเกินไป ผิดจังหวะ หรือไม่เหมาะกับผิวของคุณ” ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่แค่ฝ้าไม่จาง… แต่จะก่อให้เกิด 3 ปัญหาผิวที่ยากจะแก้ไขในภายหลัง

พลังงานสูงเกินไปจนเซลล์สร้างเม็ดสีตายถาวร

พลังงานสูงเกินไปจนเซลล์สร้างเม็ดสีตายถาวร

เลเซอร์ที่รุนแรงเกินความจำเป็นอาจ “ทำลาย” เซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) จนเกิดเป็นรอยด่างขาวไม่สม่ำเสมอที่เรียกว่า Mottled Hypopigmentation รอยขาวด่างๆ ที่เหมือนสีผิวหลุดออกมาจากผิวนี้ยากที่จะรักษาให้กลับมาเหมือนเดิม

พลังงานไม่เหมาะกับผิวจนสร้างเม็ดสีเกินปกติ

พลังงานไม่เหมาะกับผิวจนสร้างเม็ดสีเกินปกติ

การใช้เลเซอร์รักษาฝ้า บางครั้งแม้เซลล์จะไม่ตายแต่กลับ “ตื่นตัว” มากเกินไปทำให้สร้างเม็ดสีออกมามากเกินปกติจนเกิด PIH (Post Inflammatory Hyperpigmentation) ที่ทำให้ช้ำใจกว่าเดิมเพราะยิ่งยิงเลเซอร์ ฝ้าก็ยิ่งเข้ม แถมลามเป็นวงกว้างขึ้น

หยุดใช้ความร้อนที่สะสมมากเกินไปในการรักษาฝ้า

ใช้พลังงานเลเซอร์ที่รุนแรงและบ่อยจนเยื่อกั้นผิวรั่วสร้างปัญหาฝ้าฝังลึก

เยื่อกั้นผิว ( Basement Membrane ) คือด่านสำคัญที่คอยปกป้องผิวเมื่อถูกทำลายจากพลังงานความร้อนที่รุนแรงและบ่อยเกินไป เยื่อกั้นผิวจะรั่ว ส่งผลให้ Melanocyte ห้อยตัวลงลึกและผลิตเม็ดสีฝังแน่นยิ่งขึ้น เกิดเป็นปัญหาฝ้าฝังลึก

ผลสำเร็จของการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ยังไม่แน่นอน

โดยอาจใช้เป็นทางเลือกเสริม คู่กับการทายารักษาฝ้า ซึ่งอาจจะทำให้ฝ้าจางลงเร็วขึ้น การเลือกใช้เลเซอร์มักเลือกกลุ่มที่ไม่ก่อให้เกิดแผลบริเวณผิวหนังมากกว่าเลเซอร์ชนิดมีแผล เนื่องจากเลเซอร์ชนิดมีแผลอาจก่อให้เกิดการอักเสบของผิวหนังและมีรอยดำเพิ่มมากขึ้นตามมาได้
ที่มา : หนังสือ “ฝ้า (Melasma)” โดย สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2562

Research รักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ได้ผลไม่แน่นอน

ผลงานวิจัยล่าสุดจากศูนย์เลเซอร์ผิวหนังศิริราชตีพิมพ์ในวารสารของสมาคมเลเซอร์ทางการแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (Lasers in Surgery and Medicine) รายงานว่า “การทำเลเซอร์ Picosecond ไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำให้ฝ้าจางลงเมื่อเปรียบเทียบกับการทายาครีม 2% Hydroquinone เพียงอย่างเดียว”
อ้างอิงจาก : Prof Dr Woraphong/ศ.นพ.วรพงษ์ มหัสเกียรติ. (2022, November 8). ผลงานวิจัยล่าสุดจากศูนย์เลเซอร์ผิวหนังศิริราช. Facebook. https://www.facebook.com/DrWoraphong

Research รักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ได้ผลไม่แน่นอน

การใช้เลเซอร์ในการรักษาฝ้ายังคงเป็นแนวทางลำดับสุดท้ายซึ่งแนะนำในคนไข้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาทาและ Chemical peels
อ้างอิงจาก : Shankar, Krupa & Godse, Kiran & Aurangabadkar, Sanjeev & Lahiri, Koushik & Mysore, Venkat & Ganjoo, Anil & Vedamurthy, Maya & Kohli, Malavika & Sharad, Jaishree & Kadhe, Ganesh & Ahirrao, Pashmina & Narayanan, Varsha & Motlekar, Salman. (2014). Evidence-Based Treatment for Melasma: Expert Opinion and a Review. Dermatology and therapy.

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT
โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน

โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน

หมอแนทเลือกและคิดค้นเพื่อรักษาฝ้าโดยไม่พึ่งความร้อน โดยใช้วิธีการกระตุ้นคอลลาเจนทุกชั้นผิว สร้างเซลล์ผิวใหม่ ไม่ทำให้ผิวบาง ไม่ดูดกลืนแสง ไม่ต้องทนแสบร้อน ไม่ต้องเสี่ยงหน้าไหม้ เป็นการรักษามาจากต้นตอ ไม่ใช่การกลบร่องรอยและการโบกรองพื้นหนา ก็ไม่ได้แก้ปัญหาฝ้าได้จริงหลักการง่ายๆ ของหมอแนทมีแค่สามข้อคือ…

ลดการทำงานของเซลล์ Melanocyte
เร่งกำจัดเม็ดสี Melanin ส่วนเกิน
และ…ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

โดยใช้ Melasma Lab มาช่วยตรวจหาสาเหตุฝ้าได้ตรงจุด
แยกชนิดของฝ้า และรอยดำ ได้อย่างชัดเจน แม่นยำ
ที่สำคัญที่สุด…คือการไม่ใช้ความร้อนกับผิวที่อ่อนไหว
หากเรารู้สาเหตุที่แท้จริง ก็ไม่จำเป็นต้องมาไล่ยิงเม็ดสีทีละเม็ด

ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ปัญหาฝ้าทุกชนิด ทุกชั้นผิวด้วย Melasma Lab เพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอนที่ 1
วิเคราะห์ปัญหาฝ้าทุกชนิดทุกชั้นผิวด้วย Melasma Lab เพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล

การรักษาต้องมีการสแกนผิวประเมินว่าเป็นฝ้าชนิดไหน และลึกแค่ไหนด้วยโปรแกรม Melasma Lab ซึ่งเป็นการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล

ชนิดของฝ้า
ขั้นตอนที่ 2 กำจัดเม็ดสีเมลานินส่วนเกินอย่างตรงจุด

ขั้นตอนที่ 2
กำจัดเม็ดสีเมลานินส่วนเกินอย่างตรงจุด

ฝังตัวยาลงสู่ใต้ชั้นผิวหนังบริเวณที่เป็นฝ้า เพื่อลดการทำงานของเมลาโนไซต์และกำจัดเม็ดสีส่วนเกินได้อย่างตรงจุด สามารถรักษาได้ทั้งตื้น กลาง และลึก ช่วยลดฝ้าชนิดและประเภทต่างๆ ได้อย่างตรงจุด โดยตัวยาที่ถูกออกแบบเฉพาะบุคคลให้ตรงกับชนิดและความลึกของฝ้า ช่วยฟื้นฟูผิวจากต้นตอปัญหา

ขั้นตอนที่ 3 ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

ขั้นตอนที่ 3
ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

ฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเติมสารอาหารผิว ฟื้นฟูผิวตั้งแต่ชั้นลึกจนถึงชั้นผิวที่มองเห็นได้ ลดปัญหาผิวคล้ำเสียช่วยให้ผิวกลับมาดูสุขภาพดี และใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เปรียบเทียบก่อน-หลังการรักษาฝ้าที่ Doctor NAT Clinic
เปรียบเทียบก่อน-หลังการรักษาฝ้าที่ Doctor NAT Clinic
เปรียบเทียบก่อน-หลังการรักษาฝ้าที่ Doctor NAT Clinic
เปรียบเทียบก่อน-หลังการรักษาฝ้าที่ Doctor NAT Clinic
ทำไมต้องรักษาฝ้าที่ Doctor NAT Clinic

ทำไมต้องรักษาฝ้าที่ Doctor NAT Clinic

หมอแนทไม่อยากเห็นคุณเจ็บแบบไม่จบ!
เจ็บ…กับฝ้าที่ยังอยู่กับหน้า
ไปแล้วก็กลับเป็นใหม่ และยิ่งไปกันใหญ่
เจ็บ…กับผิว ที่แสบร้อน เพราะโดนความร้อนซ้ำๆ
เจ็บ…กับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า
หมอแนทอยากให้การเจอกันของเรา
ทำให้คุณจบ…แบบไม่เจ็บ!

โปรแกรมรักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน MISS
รักษาได้ตรงจุด ยับยั้งการกระจายตัวของฝ้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
เน้นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่รักษา ไม่มีการรักษาเป็นคอร์ส
เหมาะกับคนไม่มีเวลาเข้าคลินิก

  • เหมาะกับผู้ที่มีฝ้าจากการผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป
  • เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถลดฝ้าด้วยวิธีอื่น ๆ ได้
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดฝ้าที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดดบ่อย ๆ
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดฝ้าอย่างรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาไม่นาน
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้า
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมากที่จะช่วยให้การรักษาฝ้าออกมามีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากผลข้างเคียงได้ ดังนั้นควรเตรียมตัวก่อนการทำ โดยสามารถเตรียมตัวได้ ดังนี้
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาฝ้าและสุขภาพผิว เพื่อวางแผนการดูแลรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิว
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน หรือถ้าหากจำเป็นต้องสัมผัสแดด ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง เพื่อปกป้องผิวก่อนการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน เพื่อป้องกันการกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด อย่างน้อย 3-5 วันก่อนการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพ้หรือการระคายเคือง
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหยุดรับประทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด แต่ทั้งนี้การหยุดรับประทานยา ควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง เพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคืองหลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ ผลัดเซลล์ผิว หรือทรีตเมนต์ ที่อาจทำให้ผิวบางก่อนการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ก่อนทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
หลังจากการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรดูแลตัวเอง ดังนี้
  • หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดๆ เช่น ทะเล ภูเขา ดำน้ำ ตีกอล์ฟ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก หลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
  • หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วง 3 วันแรกหลังการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อหรือการระคายเคืองผิว
  • หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ควรประคบเย็นต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดอาการบวม แดงหลังทำการรักษา
  • หลังทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน หลี่กเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงทั่วไปที่พบได้ หลังการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
  • อาการบวมหรือรอยแดงหลังทำหัตถการ โดยอาการจะบรรเทาลงใน 2-3 วัน
  • รอยช้ำที่เกิดจากโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน อาการจะค่อยๆดีขึ้นประมาณ 3- 7 วัน
โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน โดยทั่วไปแล้วสามารถเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลา 6-8 สัปดาห์หลังการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน โดยจุดด่างดำและรอยฝ้า ความเข้มจะค่อย ๆ ลดลง แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างออกไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่ปัจจัยต่าง ๆ เฉพาะบุคคล เช่น สภาพผิว ความรุนแรงของฝ้า หรือการดูแลผิวหน้าหลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน
การทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน อาจจะต้องทำซ้ำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากการเกิดฝ้ามีสาเหตุทั้งจากปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก โดยจำนวนครั้งในการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ในแต่ละบุคคลนั้นจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของฝ้า ซึ่งจำนวนครั้งที่แน่ชัดในแต่ละบุคคลจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
การรักษาฝ้าด้วย โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน สามารถให้ผลลัพธ์ยาวนานได้ หากทำต่อเนื่อง ซึ่งหากดูแลผิวได้อย่างเหมาะสม ผลลัพธ์หลังการทำ โปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน สามารถอยู่ได้ยาวนาน แต่ระยะเวลาในการคงอยู่ของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายปัจจัย ดังนี้
  • การสัมผัสแสงแดด ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยการกระตุ้นหลักที่ทำให้เกิดฝ้ากลับมาซ้ำได้ แม้จะผ่านการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อนมาแล้ว หากไม่มีการดูแลป้องกันผิวที่เหมาะสม ซึ่งปัจจัยนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
  • การดูแลผิวหลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์การดูแลรักษาอยู่ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
  • การทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อนซ้ำ แม้ผลลัพธ์หลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน จะสามารถอยู่ได้ยาวนาน แต่ก็จำเป็นเป็นอย่างมากในการทำซ้ำปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อช่วยรักษาความสม่ำเสมอของสีผิว และลดโอกาสที่ฝ้าจะกลับมา
  • ปัจจัยภายในร่างกาย ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยจากภายในร่างกายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ มักเกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย ในผู้ที่เป็นกรณีแพทย์อาจแนะนำการลดฝ้าวิธีการอื่นๆ ร่วมด้วย
ปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อผลลัพธ์หลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อนลดฝ้าได้ ซึ่งในแต่ละบุคคลจะได้ผลลัพธ์หลังการทำที่ต่างกัน โดยการดูแลผิวอย่างต่อเนื่องจะช่วยยืดระยะเวลาของผลลัพธ์และป้องกันการเกิดฝ้าในอนาคตหลังการทำโปรแกรม MISS รักษาฝ้าไม่ใช้ความร้อน ได้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เลือกช่องทางปรึกษาปัญหาผิวได้เลยค่ะ

Facebook Dr. NAT
Line Dr.NAT
เบอร์ Dr. NAT
Tik Tok Dr. NAT