
การมีผิวหน้าหย่อนคล้อย เป็นหนึ่งในสัญญาณของความชราที่หลายคนกังวล ไม่ว่าจะเป็นบริเวณแก้ม คาง หรือรอบดวงตา ที่ทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเอง แต่ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้มีวิธียกกระชับหน้า ที่สามารถช่วยฟื้นฟูความเต่งตึง ยกกระชับหน้าไม่ผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ที่ได้รับความนิยมและให้ผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจน
หน้าหย่อนคล้อยเกิดจากอะไร
ก่อนจะเรียนรู้วิธียกกระชับหน้า เรามาทำความเข้าใจสาเหตุของปัญหาหน้าหย่อนคล้อยกันก่อน:
- อายุที่เพิ่มขึ้น : ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและคอลลาเจนลดลง
- แสงแดด : รังสี UV ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง
- การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก : การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วทำให้ผิวหย่อนคล้อย
- พันธุกรรม : บางคนมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ง่ายกว่าคนอื่น
- ความเครียด : ส่งผลต่อการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในร่างกาย
6 วิธียกกระชับหน้าแบบไม่ผ่าตัด

การยกกระชับหน้าไม่ผ่าตัดเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีความปลอดภัยสูง ใช้เวลาพักฟื้นน้อย และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ มาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้าง
1. HIFU
HIFU คือ เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มสูงส่งไปยังชั้นผิวลึก เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหน้ายกกระชับหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัด
ข้อดี
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- ผลลัพธ์เห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรก
- ผลลัพธ์คงอยู่นาน 6 เดือน – 1 ปี
2. Ultraformer
Ultraformer คือ เทคโนโลยียกกระชับหน้าไม่ผ่าตัด ที่ใช้คลื่นเสียงในการยกกระชับผิวบริเวณลึกลงไปเช่นเดียวกับ HIFU แต่มีความแม่นยำและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยสามารถยกกระชับหน้าได้ถึงชั้นผิวหนัง SMAS ทำให้ชั้นไขมัน และชั้น SMAS เกิดการหดตัวเสมือนเป็นการดึงหน้า จึงช่วยฟื้นฟูความกระชับ และยังกระตุ้นการเกิดคอลลาเจน จึงช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้ด้วย หลังทำจะเห็นผลทันทีประมาณ 20% หลังจากนั้น 3-4 เดือน จะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ ยิ่งทำยิ่งได้ผลลัพธ์ดีขึ้น
3. โบท็อกซ์ยกกระชับหน้า

โบท็อกซ์ เป็นการฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินเพื่อช่วยลดริ้วรอยและยกกระชับผิวหน้าโดยการทำให้กล้ามเนื้อผิวผ่อนคลาย วิธีนี้เหมาะกับการลดริ้วรอยที่เห็นชัดเจน เช่น หน้าผาก หรือรอบดวงตา โบท็อกซ์สามารถให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายในไม่กี่วันและอยู่ได้นาน 3-6 เดือน
4. Thermage
Thermage เป็นเทคโนโลยียกกระชับหน้าไม่ผ่าตัดด้วยการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) ส่งผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนังลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว ซึ่งจะช่วยให้ผิวหนังที่หย่อนคล้อยยกตัวขึ้นและดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถทำได้กับทุกสภาพผิว และไม่ต้องพักฟื้น
ผลลัพธ์จากการทำ Thermage หลังทำ Thermage เห็นผลทันที 20% และคงอยู่ได้ยาวนานถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของแต่ละบุคคล
5. Ulthera
Ulthera เป็นเทคโนโลยีการยียกกระชับหน้าด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูง (Ultrasound) โดยส่งพลังงานอัลตราซาวด์ไปยังชั้นผิวลึก รวมถึงชั้น Smas ที่เป็นต้นเหตุของปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูตึงกระชับขึ้นและริ้วรอยลดเลือนลงอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลลัพธ์หลังทำ Ulthera จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 30% และสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าไม่ผ่าตัดและเห็นผลลัพธ์ที่ยาวนาน
6. นวดยกกระชับ
การนวดหน้าเพื่อยกกระชับหน้า เป็นวิธีการที่ทำได้ง่ายและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าในชีวิตประจำวัน การนวดสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวหน้าดูสดใส เต่งตึงขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อผิวหน้า ลดอาการผิวหย่อนคล้อย และเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว
สรุปบทความ
การยกกระชับหน้าไม่ผ่าตัด มีหลากหลายวิธีให้เลือก แต่ละวิธีมีข้อดีและความเหมาะสมกับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกวิธียกกระชับหน้าที่เหมาะสมกับเราจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์สภาพผิวและความต้องการเฉพาะบุคคล
นอกจากนี้ การดูแลผิวพื้นฐาน เช่น การทาครีมกันแดด การดื่มน้ำให้เพียงพอ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยชะลอการเกิดปัญหาหน้าหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รางวัล ArokaGO Star ระดับ 5 ดาว ประจำปี 2567
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว
เจาะลึก 3 โปรแกรมการรักษาสิวจากต้นตอ ปี 2025
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว
กดสิวอย่างปลอดภัย ต้อง Sterile
ฝ้าเลือดเกิดจากอะไร พร้อมเรียนรู้แนวทางการรักษาและการดูแลผิวที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของฝ้า เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว