อันตราย! แสงสีฟ้าจากมือถือ ทำผิวหน้าหมองคล้ำ

นั่งทำงานหน้าคอม ตอบแชทตลอดเวลาไม่ได้ทำงานกลางแจ้ง แต่รู้สึกผิวหน้าดูหมองๆ ทั้งๆที่ไม่ได้เจอแดด อยู่ภายในบ้าน ผิวของเรา ก็โดนทำร้ายด้วย แสงสีฟ้า จากโทรศัพท์และหน้าจอ คอมพิวเตอร์ได้ วันนี้หมอแนท จะพามาทำความรู้จักแสงสีฟ้า อีกหนึ่งสาเหตุของการเกิด ปัญหาผิวต่างๆ ค่ะ

แสงสีฟ้า คืออะไร?

Blue Light หนึ่งใน Visible Light ที่เป็นแสงสีขาวที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าซึ่งมาจากแสงแดด ในแสงทั้งหมดก็จะประกอบไปด้วย 7 สีตามสเปกตรัม Blue Light ใกล้เคียงกับ UVA และ UVB เลยค่ะ

แสงสีฟ้า มาจากไหน?

• ดวงอาทิตย์
• หน้าจอมือถือ
• หน้าจอคอมพิวเตอร์
• หลอดไฟ LED

สิ่งที่น่ากังวลและควรเฝ้าระวังผลกระทบจากแสงสีฟ้า หรือ Blue Light คือ “ปัญหาฝ้า” ใบหน้าหมองคล้ำและปัญหา ผิวอื่นๆ ที่อาจตามมา โดยที่เราไม่รู้ตัว

แสงสีฟ้า ส่งผลกับผิวอย่างไร

• ทำให้เกิดฝ้า แสงสีฟ้า เป็นคลื่นแสงที่ เหมือน UVA/B จึงทำให้ผิว เกิดฝ้ากระจุดด่างดำได้ไม่แพ้ แสงแดด
• ผิวแห้ง หน้าหมอง ทำร้ายความชั้มชั้นภายใน ชั้นผิวก็ลดลง
• เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น แสงสีฟ้าจะกระตุ้นให้เกิด ภาวะเครียด ทำให้เซลล์ ผิวเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เกิดริ้วรอยง่ายและ ผิวดูแก่กว่าวัย
• ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย เพราะเกาะป้องกัน ผิวทำงานผิดปกติ

ชีวิตติดจอ ลดยาก แต่ป้องกันได้

เมื่อรู้ว่าการใช้ชีวิตอยู่กับหน้าจอเรา ไม่สามารถเลี่ยงได้ วิธีปกป้องผิวจากแสงสีฟ้าได้ดีที่สุด คือ การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุก วัน เพื่อลดจากปัญหาผิวต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจาก แสงสีฟ้า

ป้องกันภัยร้ายต่อผิว จากแสงสีฟ้าเบื้องต้น

• ติดฟิล์มป้องกัน แสงสีฟ้าให้กับหน้าจอ อุปกรณ์ดิจิทัลทุกชนิด
• ปรับลดแสงหน้าจอไม่ให้สว่างจนเกินไป
• สวมเสื้อผ้ามิดชิด เมื่อเจอแสงแดด
• พกร่วม หรือหมวก ไว้สำหรับกันแดด
• ทำทรีทเม็นท์รักษาผิวหน้า เพื่อลดเลือนความ
  หมองคล้า
• ทาครีมกันแดดซ้ำ ทุก 2 ชม. เมื่อออกแดดจัด

แสงสีฟ้าอาจไม่รุนแรง เท่าแสง UV จากแดด แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ส่งผลดีต่อผิวในระยะยาวเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ “ฝ้า” นั่นเองค่ะ แสงสีฟ้า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า หลีกเลี่ยงยาก แต่ป้องกันได้ค่ะ

ศึกษาข้อมูล อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับฝ้าและวิธีการรักษาฝ้าได้ที่ www.doctornatclinic  นะคะ