เจ็บมาเยอะกับหลุมสิว

กระตุ้นคอลลาเจนจากก้นหลุม ด้วยโปรแกรมศัลยกรรมกวาดตัดพังผืดหลุมสิว

ประตูบานแรกของ “Dr. Nat Clinic”

“คลินิกหมอแนท” ชื่อที่เราเรียกกันง่ายๆ ในวันที่เรามีกันอยู่สามคน คือหมอกับน้องพนักงาน 1 คน และคนแรก…ที่ได้บันทึกประวัติเป็นคนไข้คนแรกของหมอคือ “พ่อ” เพราะนอกจาก “พ่อ” เป็นแรงบันดาลใจในเส้นทางอาชีพนี้ สิ่งแรกที่หมอจะทำทันทีในวันที่เปิดคลินิกคือ “หมอต้องรักษาพ่อให้ได้ก่อน” หมอเชื่อว่า “เราจะทำให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวเราได้อย่างไร หากเราไม่ทำให้เห็น ว่าเราปฏิบัติกับคนที่เรารักเฉกเช่นกัน”
พ่อเป็นหลุมสิวทั้งหน้า หมอทำการรักษาทุกวิธี ทุกเทคนิค อะไรที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ในยุคนั้น อะไรที่คิดว่าจะทำให้พ่อดีขึ้นได้ แต่ความเจ็บปวดที่สุดของหมอคือ ไม่ว่าจะรักษาในรูปแบบใด กี่ครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หน้าพ่อก็ดีขึ้นเพียง 10-20% หลุมสิวก็ไม่ได้ตื้นขึ้นชัดเจน แถมได้ของแถมเพิ่มมาด้วยคือ รอยดำบริเวณที่ยิงเลเซอร์ซ้ำ ย้ำตรงจุดเดิม ความรู้สึกผิดที่สุดคือการที่พ่อบอกว่า “พอเถอะ! ไม่ต้องรักษาแล้ว ไม่มีทางดีขึ้นกว่านี้อีกแล้ว”
นั่นคือบาดแผลในใจหมอ ที่ลึกยิ่งกว่าร่องรอยหลุมสิวบนหน้าพ่อ สิ่งที่หมอคิดคือ “ถ้ารักษาพ่อไม่ได้ แล้วจะรักษาใครได้” แรงผลักดันของวันนั้น จึงทำให้หมอค้นคว้าอย่างหนัก เพื่อหาหนทางรักษาพ่อ เพื่อลบแผลของเราสองคนให้ได้ “แผลบนหน้าพ่อ ก็คือแผลในใจหมอ” หมอทุ่มเทอย่างหนัก อ่านงานวิจัยมานับไม่ถ้วน ที่เกี่ยวกับหลุมสิว ศึกษาทุกทาง เพื่อหาสาเหตุ ไปให้ถึงต้นตอ จนกระทั่ง…

ประตูบานใหญ่ของ “Dr. Nat Clinic”

หมอค้นพบว่า…วิธีการรักษาที่ตรงจุด ไปให้ถึงต้นตอ คือการเข้าไปตัดชั้นพังผืดที่เหนียวเหมือนเลาะกระสอบทราย พร้อมทั้งใส่ยาเร่งสร้างเนื้อเยื่อระหว่างที่ตัดใต้หลุม เพื่อเร่งสร้างคอลลาเจนใหม่ (ฟังดูเหมือนฉากโหดในหนัง) แค่พ่อรู้กระบวนการ ยังกล้าๆ กลัวๆ แต่ความจริงหลังจากนั้นคือ… “กดสิวยังเจ็บกว่า” พ่อบอก เจ็บเบาๆ แค่ตอนฉีดยาชา แต่ที่ให้ความรู้สึกตกใจเล็กๆ ปนกับความรู้สึกแปลกใหม่ ที่ไม่เคยสัมผัส คือ “เสียง” ขณะกวาดตัดพังผืด เสียงพังผืดที่ขาด เสียงดังชัดจนหลายคนบอกว่า “ทีแรกก็ตกใจ ไม่เคยได้ยิน แต่อีกใจก็คิดว่ามันคือเสียงของความหวัง ที่มาช่วยให้ฝันของเราเป็นจริง” เหมือนทำให้เขายิ่งมั่นใจว่าเรากำลังเอาบางอย่างที่ทำให้เขาทุกข์ทรมานมาแสนนาน ออกไปจากชีวิตเขาได้ซะที

หลังจากวันนั้น…บางแผลของเราพ่อลูก ก็ค่อยๆ จางหาย หมอเจอคนไข้กว่าหมื่นราย และฟังเสียงเหล่านี้มานับครั้งไม่ถ้วน ดังเบา แตกต่างกันไป เพราะความเหนียวของพังผืดและรายละเอียดของแต่ละคน ต่างกัน เทคนิคการกวาดตัดพังผืด การวางแผน ออกแบบ ได้ถูกพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกวัน เจอทุกวัน ภาพของพ่อในวันแรก กับภาพคนไข้ในทุกๆ วันแทบไม่ต่างกัน หมอรู้สึกเหมือนกำลังดูแลคนในครอบครัว กำลังพยายามทำให้พวกเขามีความสุข กลับไปใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ มีรอยยิ้มได้อีกครั้ง นั่นคือความภูมิใจที่สุดของหมอ

ในวันที่คนไข้…ไม่ต้องเป็นคนไข้อีกต่อไป แต่กลายมาเป็นพี่ เป็นน้อง เดินออกไปด้วยรอยยิ้ม และทิ้ง “คำขอบคุณ” ไว้ให้หมอยิ้มต่อ แววตาแห่งความสุขของเขา คือกำไรของหมอ

ทุกวันนี้ “Dr. Nat Clinic” ยังคงทำหน้าที่นี้อย่างแข็งแรง และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเชื่อที่ว่า…เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีผิวที่เรียบเนียนได้ ขอแค่อย่าเพิ่งท้อใจ ยอมแพ้ ให้โอกาสผิว ให้โอกาสหมอได้ดูแล พาคุณก้าวออกมาจากโลกที่คุณเคยซ่อนตัวเองไว้ในความมืดหม่น จนไม่กล้าฝัน

“ความฝัน…เป็นหน้าที่ของคุณ
แต่การดูแลผิวหน้าคุณ…เป็นหน้าที่ของหมอ”
ขอบคุณทุกคนที่เดินเข้าประตูบานนี้มา แล้วก้าวออกไป อย่างไม่ต้องก้มหน้าอายใครอีก