โปรแกรมรักษาสิวที่ต้นตอ / โปรแกรมรักษาสิวลดการทานยาสิว

รักษาสิวที่ต้นตอ ลดการทานยาสิว
เพราะการเป็น “สิว” มีผลต่อคุณภาพชีวิตทั้ง ด้านอารมณ์ จิตใจ และสังคม ทำให้หลายๆคน สูญเสียความมั่นใจ หมอแนทเข้าใจความรู้สึกของคนไข้ในจุดนี้ดีค่ะ เพราะหมอเอง ก็เคยเป็นสิวหนักมากเช่นกัน
คำถามที่หมอถูกถามบ่อยๆ เกี่ยวกับการทานยารักษาสิว
1.ยาสิว กินแล้วตับพัง จริงหรอ?
ยาแก้สิวบางตัว ถ้ากินโดยที่ไม่ได้มีการตรวจการทำงานของตับ ทำให้ตับมีการทำงานหนักขึ้น อาจทำให้ตับเข้าสู่ภาวะตับทำงานผิดปกติได้
ยาสิว เป็นกลุ่มกรดวิตามินเอ isotretinoin เป็นกลุ่มที่กินแล้วเห็นผลเร็ว แต่ก็จะตามมาด้วยความเสี่ยงของผลข้างเคียง รับประทานภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น โดยปกติ ถ้าคุณหมอจัดยาให้ จะต้องมีการซักประวัติ เพื่อดูความเสี่ยง แพ้ยาอะไรหรือเปล่า มีโรคประจำตัว รวมถึงมีความเสี่ยงการตั้งครรภ์ เพราะยากลุ่มนี้ สามารถทำให้ทารกในครรภ์พิการได้ หลังจากนั้น คุณหมอจะเจาะเลือด เพื่อตรวจการทำงานของตับ และไขมันในเลือดด้วย เนื่องจากยากลุ่มนี้ อาจจะทำให้ไขมันในเลือดสูงด้วย ซึ่งถ้าเกิดเราเจออะไรที่ผิดปกติ หรือหยุดยาทัน ปรับโดสลงให้เหมาะสม ก็จะสามารถลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้


2.แค่กินยาแก้สิว ส่งผลได้รุนแรงกับตับ ได้ยังไง?
ปกติยาพวกนี้ จะต้องทานต่อเนื่อง 6เดือน – 1 ปี นานพอที่อาจจะส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงกับตับและระบบร่างกายต่างๆค่ะ
ใน 100 คน ที่กินยาสิว จะมีประมาณ 15 คน คิดเป็น 15% ที่ตับผิดปกติเล็กน้อย
ใน 100 คน ที่กินยาสิว จะมีประมาณ 1 คน คิดเป็น 1% มีการทำงานของตับผิดปกติอย่างรุนแรง ถ้ารุนแรงมากๆถึงขั้นตับล้มเหลว ก็อาจจะส่งผลให้เสียชีวิตได้ ผลข้างเคียงที่เจอบ่อย คือเรื่องผิวจะแห้ง ปากแห้ง ตาแห้ง ต้องระวังโดยเฉพาะในคนไข้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ และอีกส่วนนึงคือ การปวดกล้ามเนื้อ


ยาสิวอันตราย แต่ทำไมมีวางขายทั่วไป
ถ้าตามกฏหมาย ยานี้ไม่สามารถซื้อได้เอง ที่ถูกต้อง คือ ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ผิวหนัง แต่ก็มีคนแอบเอามาขายผ่านออนไลน์ หมอไม่แนะนำให้ซื้อมารับประทานเอง ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้นค่ะ โดยปกติ เราจะแบ่งตามความรุนแรงของสิว และเลือกเครื่องมือการรักษาที่เหมาะสม เมื่อไหร่ก็ตามที่มีสิวอักเสบที่หน้าหลายตุ่ม โดยเฉพาะ เกิน 10 ตุ่มขึ้นไป อาจจะมีความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น จำเป็นต้องให้แพทย์ ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อลดโอกาสลุกลาม


วิตามินแก้สิว ใช้ได้ผลจริงมั้ย
วิตามินแก้สิว เหมือนเป็นการรักษาเสริมเท่านั้น ยังไม่มีผลงานวิจัยรับรอง อย่างชัดเจนว่าสามารถทำให้สิวหายได้ และอาจจะไม่ใช่การรักษาหลัก
ส่วนยาชนิดอื่นๆ ที่สามารถใช้รักษาสิวได้ อาจจะเป็นพวกยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ก็ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เช่นกันค่ะ เนื่องจากช่วงเวลาทาน ก็จะมีช่วงเวลาที่ทานที่ค่อนข้างนาน 2-3 เดือน ถ้าลองซื้อมากินเอง กินๆหยุดๆ ก็อาจจะให้เกิดอาการดื้อยาได้ สำคัญมากๆ ที่หมออยากจะย้ำเตือน ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ในบางตัวห้ามกินร่วมกับยา กลุ่มกรดวิตามินเอ isotretinoin เพราะจะส่งผลเสียตรงต่อระบบประสาท และระบบสมอง ไม่ควรซื้อรับประทานเองเด็ดขาดค่ะ อันตรายมากๆค่ะ
ที่ ดอกเตอร์แนท คลินิก เราให้ความสำคัญกับการหาสาเหตุมาก เราต้องรู้ก่อนว่าสิวของคุณคือสิวแบบไหน อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว ด้วยการการตรวจหาสาเหตุ ที่คิดค้นมาเพื่อแก้ปัญหาสิวโดยเฉพาะ เพื่อให้รู้ถึงตัวการที่ทำให้เกิดสิวของคุณ และสามารถวางแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับคุณมากที่สุด


อ้างอิงข้อมูลจาก ผศ.พญ.สุเพ็ญญา วโรทัย ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์
ศิริราชพยาบาล สัมภาษณ์เมื่อ 22 เมษายน 2565
ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=_eqcL8h11VQ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ยาคุมลดสิวได้จริงไหม เลือกแบบไหนดี?
ยาคุมลดสิวได้ผลจริงหรือไม่? ทำความเข้าใจวิธีการทำงาน ข้อควรระวัง และทางเลือกในการรักษาสิวที่ปลอดภัย พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อ่านต่อในบทความนี้
ไขข้อสงสัย เป็นสิวสเตียรอยด์ สิวติดสาร ทำยังไงดี?
สิวสเตียรอยด์และสิวติดสารคืออาการที่เกิดจากการใช้ครีมผิดวิธี เรียนรู้สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาที่ถูกต้องเพื่อให้ผิวกลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง
สิวแพ้ครีมทำยังไงให้หาย?
สิวแพ้ครีมมีลักษณะอย่างไร พร้อมทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีรักษาที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาผิวหน้าเสียจากการใช้ครีมไม่เหมาะสม รู้ก่อนรักษาทัน